ภาพรวมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์

ดูว่าหุ่นยนต์ที่ติดตั้งปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยให้ธุรกิจแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ๆ ได้อย่างไร 

ข้อมูลสำคัญ

  • ปัญญาประดิษฐ์สามารถรวมเข้ากับหุ่นยนต์ทุกประเภทเพื่อช่วยให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วง

  • การเรียนรู้ของเครื่องและการเรียนรู้เชิงลึกช่วยให้หุ่นยนต์ฉลาดขึ้น โดยจะช่วยเสริมขีดความสามารถเพื่อให้หุ่นยนต์สามารถทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นได้สำเร็จลุล่วง

  • Intel นำเสนอโซลูชั่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการพัฒนาที่หลากหลายซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเข้าใจสภาพแวดล้อมและโต้ตอบกับเครื่องจักรอื่นๆ และมนุษย์ได้

author-image

โดย

หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์: การปฏิวัติธุรกิจเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

แนวคิดเรื่องหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นดึงดูดใจและจุดประกายจินตนาการของเรามานานหลายทศวรรษแล้ว ทุกวันนี้ แนวคิดเกี่ยวกับวิทยาการหุ่นยนต์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนิยายวิทยาศาสตร์กำลังกลายเป็นความจริงสำหรับธุรกิจต่างๆ มากมาย 

บริษัทต่างๆ กำลังใช้หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อนำมนุษย์และเทคโนโลยีเข้ามาใกล้กันมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาและเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป

ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ที่ใช้ AI จะต้อนรับลูกค้าในร้านค้าและให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน มีการใช้หุ่นยนต์เพื่อเก็บเกี่ยวผักผลไม้ที่โตเต็มที่ในไร่นาและเสิร์ฟลาเต้ตามสั่งในร้านกาแฟ ในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ที่ใช้ AI ช่วยให้พนักงานมีความปลอดภัยเมื่อทำงานในพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังทำงานที่ซับซ้อน เช่น การตัด การเจียร การเชื่อม และการตรวจสอบโดยอัตโนมัติ

หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI คืออะไร

หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI นั้นถูกเสริมด้วยเซ็นเซอร์ที่หลากหลาย (รวมถึงอุปกรณ์การมองเห็น เช่น กล้อง 2D/3D, เซนเซอร์วัดแรงสั่นสะเทือน, เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุ, มิเตอร์วัดความเร่ง และเซ็นเซอร์ตรวจวัดสภาพแวดล้อมอื่นๆ) ที่ป้อนข้อมูลการตรวจจับที่สามารถวิเคราะห์และดำเนินการในแบบเรียลไทม์

เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ AI คืออะไร สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าอะไรทำให้พวกมันฉลาดขึ้น

ปัญญาประดิษฐ์หมายถึงระบบในวงกว้างที่ทำให้เครื่องจักรสามารถเลียนแบบความสามารถขั้นสูงของมนุษย์ได้ มีหลายวิธีในการเพิ่มความสำเร็จให้กับ AI ดังแสดงในแผนผังด้านล่าง

เมื่อเสริมด้วย AI หุ่นยนต์จะสามารถช่วยธุรกิจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเปลี่ยนโฉมการดำเนินงานของตนได้ ประเภทของหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่พบบ่อยที่สุดในปัจจุบันได้แก่:

หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR)

ในขณะที่ AMR ทำงานในสภาพแวดล้อมต่างๆ AI จะช่วยให้พวกมันสามารถ:

  • ตรวจจับข้อมูลผ่านกล้อง 3 มิติและเซ็นเซอร์ LiDAR
  • วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้
  • ทำการอนุมานตามสภาพแวดล้อมและภารกิจโดยรวมของตน
  • เคลื่อนที่หรือดำเนินการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

งานและการดำเนินการที่ทำโดย AMR ที่ใช้เทคโนโลยี AI นั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น เมื่อย้ายสินค้าคงคลังจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งในคลังสินค้า AMR จะสามารถหลีกเลี่ยงการชนกันได้โดยการเคลื่อนที่ไปมาผ่านพนักงานที่เป็นมนุษย์หรือกล่องที่ตกลงมา พร้อมกับกำหนดเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำงานให้เสร็จสิ้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AMR และวิธีการใช้งาน

หุ่นยนต์แขนกล (แขนหุ่นยนต์)

AI ช่วยให้หุ่นยนต์แขนกลทำงานได้เร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น เทคโนโลยี AI จะอนุมานข้อมูลจากเซ็นเซอร์การมองเห็น เช่น กล้อง 2D/3D เพื่อแบ่งส่วนและทำความเข้าใจฉาก ตลอดจนตรวจจับและจำแนกวัตถุ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ่นยนต์แขนกลและแขนหุ่นยนต์

หุ่นยนต์ชนิดที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้

AI ช่วยให้หุ่นยนต์ชนิดที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ตอบสนองและเรียนรู้จากคำพูดและท่าทางของมนุษย์โดยไม่ต้องมีการเรียนรู้โดยใช้ความช่วยเหลือจากพนักงาน
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ่นยนต์ประเภทต่างๆ และวิธีการใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมต่างๆ

ประโยชน์ของการบูรณาการ AI

แม้ว่าการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์เข้ากับการดำเนินงานหรือรูปแบบธุรกิจที่มีอยู่นั้นจะดูยุ่งยากในตอนแรก แต่ประโยชน์ที่ได้รับโดยทั่วไปจะมีมากกว่าความท้าทายที่ได้รับ 

ความสามารถในการผลิตและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทต่างๆ ต้องรับมือกับความต้องการในด้านต่างๆ มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ลูกค้าต้องการให้จัดส่งเร็วขึ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องการผลผลิตที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และคนงานต้องการทำงานโดยไม่เมื่อยล้าหรือบาดเจ็บ หุ่นยนต์ AI กำลังช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน พวกมัน่จะทำงานที่ซ้ำซากหรือใช้เวลานาน เช่น การตรวจสอบสินค้าคงคลังและแจ้งเตือนพนักงานเกี่ยวกับสินค้าที่หมดสต็อกหรือวางผิดที่ในสภาพแวดล้อมการขายปลีก ซึ่งจะช่วยเร่งการส่งมอบผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และปล่อยให้พนักงานที่เป็นมนุษย์ทำงานในระดับที่สูงขึ้นและไม่ต้องใช้ความพยายามทางร่างกายมาก เช่น การมองหาวิธีในการปรับปรุงกระบวนการ การแก้ไขปัญหา AMR หรือการพัฒนาแนวคิดใหม่ 

คุณภาพและความแม่นยำที่ดีขึ้น

หุ่นยนต์ AI สามารถมองเห็นและเข้าใจสภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งช่วยให้พวกมันสามารทำงานที่ซับซ้อนได้ เช่น การตรวจสอบและควบคุมคุณภาพในสายการผลิต ในการใช้งานในอุตสาหกรรมนั้น หุ่นยนต์ AI สามารถตรวจสอบคุณภาพของสินค้าแบบอินไลน์ได้ แทนที่จะรอจนให้งานสิ้นสุดกระบวนการ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับผู้ผลิต อ่านวิธีที่ Audi ร่วมมือกับ Intel และ Nebbiolo Technologies ในการยกระดับการตรวจสอบรอยเชื่อมและปรับปรุงกระบวนการควบคุมคุณภาพด้วยแขนหุ่นยนต์ที่ใช้ Intel แมชชีนเลิร์นนิง และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์1

เพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงาน

หุ่นยนต์ AI มีบทบาทสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน บริษัทต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซมักใช้หุ่นยนต์เหล่านี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลหรือทำงานตรวจสอบความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายเพื่อลดความเสี่ยงต่อมนุษย์ และเนื่องจากหุ่นยนต์ที่ใช้ AI สามารถเรียนรู้จากท่าทางและคำพูดของมนุษย์ได้ พวกมันจึงสามารถเพิ่มความสามารถในการทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่ทำงานเคียงข้างพนักงานอย่างปลอดภัย

ขีดความสามารถของหุ่นยนต์ AI

ในการทำให้หุ่นยนต์มีความชาญฉลาดอย่างแท้จริงนั้น จำเป็นต้องมีขีดความสามารถที่สำคัญหลายอย่าง

วิทยาการหุ่นยนต์และการเรียนรู้ของเครื่อง

การเรียนรู้ของเครื่องมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสามารถในการเรียนรู้และการปฏิบัติงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ของหุ่นยนต์ AI การเรียนรู้ของเครื่องสำหรับหุ่นยนต์ช่วยให้หุ่นยนต์ต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลตามเวลาจริงและข้อมูลเชิงบริบทที่ได้รับผ่านประสบการณ์ของพวกมันเพื่อพัฒนาเส้นทางการเรียนรู้และความสามารถใหม่ๆ ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใครเมื่อพวกมันต้องเผชิญในสภาพแวดล้อมของตนเองได้

การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP)

การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เป็นประเภทของปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยให้หุ่นยนต์เข้าใจภาษามนุษย์ในขณะที่พูด หุ่นยนต์ AI ที่มี NLP มักจะทำงานที่เกี่ยวข้องกับ:

  • ตอบคำถามที่มนุษย์ตั้งขึ้น
  • การรู้จำเสียง
  • การกำหนดอารมณ์คำพูด

NLP ช่วยให้หุ่นยนต์ AI ในภาคการค้าปลีก การดูแลสุขภาพ และงานบริการสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าที่คีออสก์แบบไร้สัมผัส ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเสมือนในธนาคารเพื่อลดการติดต่อระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ หรือสร้างความบันเทิงให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนผู้เกษียณอายุ

AI การสนทนา

AI การสนทนาจะใช้ข้อมูล NLP และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อยกระดับความสามารถในการโต้ตอบของหุ่นยนต์ AI กับมนุษย์ไปอีกขั้น เป้าหมายในการใช้ AI การสนทนากับ AMR หรือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์คือการให้การโต้ตอบที่เหมือนมนุษย์มากขึ้นระหว่างผู้คนและคอมพิวเตอร์ ทุกครั้งที่มีโต้ตอบกัน หุ่นยนต์จะจับบทสนทนา ประมวลผล ตอบสนอง และเรียนรู้เพื่อรอการโต้ตอบครั้งต่อไป ตัวอย่างเช่น ร้าน Lee's Famous Chicken ในโอไฮโอประสบปัญหาการขาดแคลนพนักงาน จึงได้เริ่มใช้โซลูชัน AI การสนทนาเพื่อทักทายลูกค้าแบบไดร์ฟทรู ตอบคำถามเกี่ยวกับรายการเมนู และรับออเดอร์

เทคโนโลยี Intel® AI

เทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันได้ของ Intel คือกุญแจสำคัญในการติดตั้ง AI ให้กับหุ่นยนต์เพื่อที่จะให้พวกมันสามารถรับรู้ วางแผน และดำเนินการได้อย่างชาญฉลาด 

โดย Intel ได้จัดเตรียมชุดส่วนประกอบพื้นฐานไว้ให้กับผู้สร้างหุ่นยนต์ทั้งหลายได้ใช้ในการสร้างโซลูชันหุ่นยนต์ที่มีการเชื่อมต่อหากัน ชาญฉลาด และเชื่อถือได้ ด้วยฮาร์ดแวร์ที่สร้างขึ้นสำหรับ IoT, ซอฟต์แวร์ AI ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชันหุ่นยนต์เคลื่อนที่ และระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลก

โปรเซสเซอร์ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับ IoTตัวเร่งความเร็ว AI และ VPU ของเราให้ความสามารถในการประมวลผลที่จำเป็นซึ่งหุ่นยนต์ AI ทั้งหมดต้องใช้สำหรับการทำงานที่ชาญฉลาดและโดยอัตโนมัติ 

ผลิตภัณฑ์ Intel® RealSense™ ช่วยให้หุ่นยนต์อัจฉริยะสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและเข้าใจวัตถุได้ 

และชุดเครื่องมือ Intel® Distribution of OpenVINO™ ช่วยให้นักพัฒนามีเครื่องมือและส่วนประกอบสำเร็จรูปไว้ใช้งานเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาความสามารถในการอนุมาน AI ที่ครอบคลุม Intel® oneAPI — โมเดลการเขียนโปรแกรมแบบรวมที่ใช้มาตรฐานข้ามอุตสาหกรรมแบบเปิด ช่วยให้นักพัฒนาได้รับประสบการณ์การพัฒนาร่วมกันในสถาปัตยกรรมตัวเร่งความเร็ว ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันสำหรับฮาร์ดแวร์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้สามารถคาดการณ์ได้มากขึ้น และให้การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ 

โซลูชันแมชชีนวิชันที่ขับเคลื่อนโดย Intel สำหรับอุตสาหกรรม 4.0 นำฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีของคู่ค้ามารวมกันเพื่อขับเคลื่อนแมชชีนวิชัน การผลิตอัจฉริยะ และระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อโซลูชันหุ่นยนต์

ด้วยเทคโนโลยี Intel® AI และผลิตภัณฑ์ Intel® Vision ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการอนุมานที่มีเวลาแฝงต่ำ ธุรกิจต่างๆ สามารถนำ AI มาใช้กับหุ่นยนต์และอุปกรณ์ Edge อื่นๆ ได้

เทคโนโลยี Intel® AI รองรับยุคถัดไปของวิทยาการหุ่นยนต์

บริษัทที่มีนวัตกรรมทั่วโลกกำลังใช้วิทยาการหุ่นยนต์ร่วมกับ AI ไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางอย่างเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อจัดการกับปัญหาเฉพาะบางอุตสาหกรรมและบางธุรกิจ เช่น ด้านประสิทธิภาพ ผลงาน และความปลอดภัยของพนักงาน ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านวิทยาการหุ่นยนต์และเทคโนโลยี AI ที่แข็งแกร่ง Intel พร้อมแล้วที่จะช่วยให้บริษัทต่างๆ ปฏิวัติธุรกิจของตน

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย

วิทยาการหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เป็นสองสาขาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะเป็นพื้นที่ที่แยกจากกัน แต่ก็ซ้อนทับกันในพื้นที่เดียว นั่นคือ หุ่นยนต์ AI ปัญญาประดิษฐ์สามารถนำไปใช้กับหุ่นยนต์เพื่อสร้างหุ่นยนต์ AI

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยประการหนึ่งเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่เสริมด้วย AI คือพวกมันจะเริ่มทำงานอย่างอิสระหรือในลักษณะที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของงานเดิม นี่เป็นเรื่องไม่จริง ความฉลาดของหุ่นยนต์นั้นไม่เหมือนกับความฉลาดของมนุษย์และหุ่นยนต์ไม่สามารถสร้างความสามารถใหม่นอกขอบเขตของสิ่งที่พวกมันถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ทำ ความเข้าใจผิดที่ได้รับความนิยมอีกอย่างหนึ่งคือหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในทุกงาน โดยมีโอกาสมากขึ้นที่หุ่นยนต์ที่เสริมด้วย AI จะเปลี่ยนโฉมงานต่างๆ ในปัจจุบัน หุ่นยนต์ไม่ได้ถูกออกแบบให้มาแทนที่คนงานที่เป็นมนุษย์ พวกมันได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยมนุษย์ในการทำงานของพวกเขาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิต และความปลอดภัย