แข่งขันได้อย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีการทำงานจากระยะไกลที่เหมาะสม

การทำงานจากระยะไกลเป็นความเป็นจริงแบบใหม่สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก แต่การเลือกเทคโนโลยีและเครื่องมือที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ค้นพบปัจจัยสำคัญที่คุณควรพิจารณาเพื่อให้สามารถแข่งขันได้อยู่เสมอ

ประเด็นสำคัญของการทำงานจากระยะไกล

  • พีซีที่มีขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยบนฮาร์ดแวร์ช่วยให้พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลได้รับการปกป้อง โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงาน

  • การลงทุนในพีซีระดับธุรกิจสามารถช่วยปรับปรุงความพึงพอใจของพนักงานและรักษาพนักงานไว้ได้ ทั้งยังส่งผลต่อผลกำไรของคุณในรูปแบบที่วัดค่าได้

  • โครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์เป็นสิ่งที่คุ้มค่า และมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้นในการสนับสนุนพนักงานที่ทำงานทางไกล

  • แพลตฟอร์ม Intel vPro® Essentials ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังเติบโต ซึ่งมีพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลหรือแบบไฮบริด

author-image

โดย

ในฐานะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก คุณย่อมรู้ดีว่าการจ้างงานและรักษาพนักงานเอาไว้มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจของคุณ ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางคาดหวังว่าพนักงานเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาจะทำงานจากระยะไกลเป็นบางครั้งบ้างเป็นอย่างน้อย1 การค้นหาผู้มีความสามารถที่ดีที่สุดหมายความว่า คุณยังคงความสามารถไว้ได้ในการแข่งขันอยู่เสมอในสถานที่ทำงานทางไกลรูปแบบใหม่

เราทราบดีว่าการทำให้พนักงานของคุณทำงานได้ดีที่สุดในทุกที่ และการทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่ล้ำสมัยนั้นมีความสำคัญสูงสุดในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และขยับขยายธุรกิจของคุณ

ไม่ว่าคุณจะมีสมาชิกของทีมที่ทำงานจากระยะไกลหรือแบบไฮบริด หรือออกไปพบกับลูกค้า หรือคุณกำลังพิจารณาการทำงานจากระยะไกลเป็นตัวเลือกในอนาคตอยู่ เราสามารถช่วยให้คุณเข้าใจวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีการทำงานจากระยะไกล

เราได้รวบรวมคำแนะนำด้านเทคโนโลยีของเราเพื่อสนับสนุนพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล และกลั่นกรองออกมาเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ความปลอดภัย อุปกรณ์ของพนักงาน และโครงสร้างพื้นฐาน

ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

ขีดความสามารถด้านความปลอดภัยมีความสำคัญต่อการปกป้องข้อมูลธุรกิจและลูกค้าของคุณ รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา และรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงของการหยุดชะงัก อันเนื่องมาจากการโจมตีทางไซเบอร์

ความเสี่ยงของภัยคุกคามทางไซเบอร์ และการมีแผนป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ความเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกธุรกิจ การไม่มีกลยุทธ์ในการจัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วได้ Kaspersky บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกได้เปิดเผยว่าค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยจากการโดนละเมิดข้อมูลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในปี 2020 คือ 101,000 USD2 และ Verizon ประมาณการว่าค่าใช้จ่ายเหล่านั้นสามารถทะยานขึ้นไปถึง 1.2 พันล้าน USD ได้ 3

การปรับเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลมีแต่จะเพิ่มความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวให้กับธุรกิจขนาดเล็ก และความต้องการด้านการปกป้องข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้น ในปี 2019 ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางถึง 66 เปอร์เซ็นต์ได้ประสบกับการโจมตีทางไซเบอร์ 4 และรายงานในปี 2021 พบว่าการโจมตีทางไซเบอร์ต่อธุรกิจต่อสัปดาห์เพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์5

การสร้างกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ครอบคลุมเริ่มต้นด้วยการเพิ่มพูนความรู้ของคุณเกี่ยวกับภัยคุกคามในปัจจุบันและการปรับใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยด้านไอที การฝึกอบรมพนักงานของคุณเกี่ยวกับพื้นฐานด้านความปลอดภัย เช่น การสร้างรหัสผ่านที่รัดกุม การตรวจจับอีเมลฟิชชิ่งและการหลอกลวง และการใช้ Wi-Fi ที่ปลอดภัยและการแชร์ไฟล์ที่เข้ารหัส เป็นส่วนสำคัญในการทำให้ธุรกิจของคุณมีรากฐานการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

ขั้นตอนต่อไปคือการมีการป้องกันเพื่อจำกัดตัวเลือกของผู้ประสงค์ร้ายในการโจมตี ตอนนี้ผู้โจมตีมีความซับซ้อนและมีทักษะมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าการรักษาความปลอดภัยบนซอฟต์แวร์นั้นไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้พวกเขาค้นหา และใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในระบบของคุณอีกต่อไป วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยปกป้องพนักงาน ธุรกิจ และข้อมูลลูกค้าของคุณคือ การใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนอุปกรณ์ของพนักงานทั้งในระดับแอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ เฟิร์มแวร์ และฮาร์ดแวร์ แม้เรื่องนี้จะฟังดูน่ากลัว แต่การมีพีซีที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับธุรกิจจะช่วยให้คุณลดความซับซ้อนของโซลูชันการรักษาความปลอดภัยของคุณได้ แพลตฟอร์ม Intel vPro® Essentials ส่งมอบความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ ซึ่งจะมอบให้การป้องกันเชิงลึกแบบผสานรวมในระดับแอปพลิเคชัน ข้อมูล และเฟิร์มแวร์ และรวมถึง Intel® Threat Detection Technology (Intel® TDT) ที่ช่วยในการจัดการกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเบื้องหลังฉาก นั่นหมายความว่าการปกป้องอุปกรณ์ของคุณจะไม่ลดทอนประสิทธิภาพของระบบ หรือขัดขวางประสิทธิภาพการทำงาน

อุปกรณ์ของพนักงาน

เทคโนโลยีคือส่วนประกอบสำคัญของการทำงานในแต่ละวัน และประสบการณ์ของพนักงานกับเทคโนโลยีที่คุณมอบให้จะมีผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของพนักงาน การมอบพีซีระดับธุรกิจที่ทำงานได้ดี ตอบสนองได้ฉับไว มีความปลอดภัย และมีเสถียรภาพให้กับพนักงานของคุณไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานและรักษาพนักงานเอาไว้6 แต่ยังส่งผลต่อผลกำไรของคุณในรูปแบบที่วัดค่าได้

อุปกรณ์ได้รับการออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังเติบโตโดยเฉพาะ เฉกเช่นอุปกรณ์ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Intel vPro® Essentials ซึ่งส่งมอบขุมพลัง ความยืดหยุ่น และความปลอดภัยในตัวที่ธุรกิจขนาดเล็กของคุณต้องการเพื่อก้าวหน้าและเติบโต

ประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพของอุปกรณ์มีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน พนักงานต้องการพีซีที่สามารถจัดการแอปพลิเคชันที่ทำงานพร้อมกันที่พวกเขาใช้ตลอดทั้งวัน รวมถึงโปรแกรมการประชุมทางวิดีโอที่ใช้ทรัพยากรปริมาณมาก ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานร่วมกันและการมีส่วนร่วมกับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลเพื่อที่พวกเขาจะได้รับประสบการณ์การทำงานที่ราบรื่น

อุปกรณ์ Intel vPro® ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 12 ล่าสุดได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการทำงานทางธุรกิจและมัลติทาสกิ้ง Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 12 ไม่เพียงแต่จะส่งมอบโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำงานทางธุรกิจ แต่ Intel® Thread Director ซึ่งปรับการประมวลผลแบบไดนามิกตามวิธีการใช้งานพีซีแต่ละเครื่อง จะช่วยให้พนักงานสามารถเพลิดเพลินกับประสิทธิภาพที่รวดเร็ว พร้อมกับมีการขัดจังหวะจากแอปที่ซับซ้อนน้อยลงในขณะที่ทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง

การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว

ในหน่วยงานที่ทำงานแบบกระจาย การเชื่อมต่อถึงกันและกัน และลูกค้าของคุณอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับพนักงานของคุณ อุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยีไร้สาย เช่น Wi-Fi 6E (Gig+), 4G LTE หรือ 5G จะช่วยให้พนักงานของคุณมีการเชื่อมต่อที่รวดเร็วที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้เพื่อเข้าถึงทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำงานร่วมกันได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น

อุปกรณ์ Intel vPro® มาพร้อมกับ Intel® Wi-Fi 6/6E (Gig+) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Wi-Fi ที่ดีที่สุดสำหรับการประชุมทางวิดีโอในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วขึ้น 6 เท่ามากกว่า Wi-Fi 5 มาตรฐานในสำนักงาน7 และมีความเร็วมากขึ้นเกือบ 3 เท่าที่บ้าน8

การรองรับอุปกรณ์ต่อพ่วง

อุปกรณ์ต่อพ่วงพีซีอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอไป แต่อุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยสร้างประสบการณ์การทำงานที่ราบรื่นยิ่งขึ้นให้กับพนักงาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้

  • หูฟังไร้สาย: หูฟังที่มาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ไม่ต้องใช้มือจับ และมีไมโครโฟนในตัวจะช่วยให้พนักงานสามารถจดจ่อกับงาน ปิดกั้นเสียงและสิ่งรบกวนจากภายนอก และใช้มือของพวกเขาเพื่อพิมพ์ หรือทำงานที่สร้างมูลค่าอื่นๆ ในขณะที่รับโทรศัพท์หรือโทรผ่านวิดีโอได้
  • กล้องวิดีโอคุณภาพสูง: การเปิดกล้องไว้ในระหว่างการประชุมจะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะทำงานที่ใด เมื่อใช้กล้องวิดีโอร่วมกับซอฟต์แวร์การประชุมผ่านวิดีโอ กล้องวิดีโอสามารถช่วยสร้างความไว้วางใจและสายสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีม ยกระดับการมีส่วนร่วม และทำให้การประชุมงานดำเนินต่อไปได้
  • ชุดเชื่อมต่อพอร์ต: แล็ปท็อปเหมาะสำหรับพนักงานที่ต้องเดินทาง แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขาพร้อมที่จะทำงานให้เสร็จที่โต๊ะของพวกเขาล่ะ ชุดเชื่อมต่อพอร์ตสามารถลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อ และถอดแล็ปท็อปจากอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ ลดความซับซ้อนของกระบวนการ และประหยัดเวลาทำงานอันมีค่า

พีซีที่รองรับเทคโนโลยี Thunderbolt™ เพื่อถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง การจัดการสายเคเบิล และความยืดหยุ่นสำหรับการเข้าถึงพอร์ตภายนอกสามารถช่วยส่งมอบคุณประโยชน์เพิ่มเติมจากอุปกรณ์ต่อพ่วงได้มากขึ้น

โครงสร้างพื้นฐาน

เมื่อพนักงานบางส่วนของคุณทำงานนอกสำนักงาน การลงทุนในโซลูชันระบบเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้พนักงานของคุณเชื่อมต่อกับธุรกิจ และข้อมูลที่จำเป็นได้อยู่เสมอ โซลูชันบนระบบคลาวด์เป็นโซลูชันที่พร้อมใช้งานและปรับขนาดได้ รวมถึงตัวเลือกการจัดการที่คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หรืออุปกรณ์เพื่อเข้าถึงและรับประโยชน์ที่คุณต้องการ

โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์จะช่วยให้สามารถปรับใช้แอปพลิเคชันงานทั่วไปในเวอร์ชันบนระบบคลาวด์ได้ง่ายขึ้นมาก เช่น ซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การทำงานร่วมกัน การเงิน หรือการจัดการสินค้าคงคลัง รวมไปถึงการส่งมอบเข้าถึงที่ปลอดภัยไปยังข้อมูลธุรกิจล่าสุดที่จัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยในระบบคลาวด์

ประสิทธิภาพการทำงาน การทำงานร่วมกัน และการสื่อสารจะเฟื่องฟูขึ้น เมื่อพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลและนอกสถานที่สามารถทำงานในโครงการ หรือเอกสารเดียวกันพร้อมกันได้ในเวลาที่ใกล้เคียงแบบเรียลไทม์ที่สุด

นอกจากนี้ เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น คุณยังจำเป็นต้องบริการจัดการอุปกรณ์ของบริษัทจากระยะไกลด้วย อุปกรณ์ระดับธุรกิจที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Intel vPro® Essentials มาพร้อมกับขีดความสามารถในการจัดการระยะไกลระดับมาตรฐานของ Intel® ที่ช่วยให้ฝ่ายไอทีเข้าถึงอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi และ CIRA (รองรับระบบคลาวด์) แม้ว่าระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์จะปิดทำงานอยู่ หรือไม่ตอบสนองก็ตาม ซึ่งหมายความว่าทีมไอทีหรือผู้ให้บริการของคุณสามารถจัดการอุปกรณ์จากส่วนกลางได้โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้งยังสามารถทำการแพตช์ อัปเกรด และแก้ไขปัญหา ไม่ว่าพนักงานของคุณจะอยู่ที่ไซต์งานหรือทำงานทางไกลก็ตาม

Intel vPro® Essentials: สร้างขึ้นเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก

เรารู้ว่าการคงความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจขนาดเล็กไม่ใช่เรื่องง่าย การจัดการความต้องการของพนักงานแบบไฮบริด พร้อมกับตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไปด้วยเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอย่างมาก แต่การลงทุนในพีซีที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Intel vPro® Essentials สามารถช่วยให้คุณมอบประสบการณ์การทำงานที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และการทำงานร่วมกันที่พวกเขาต้องการ พร้อมกับช่วยให้ธุรกิจของคุณมีความปลอดภัย และตอบสนองต่อลูกค้าของคุณ และอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้