ฝ่าย IT จะสามารถปกป้องความปลอดภัยในโลกของการทำงานจากระยะไกลได้อย่างไร

โดย Stannelie Hallfort, รองประธาน Client Computing Group, ผู้จัดการทั่วไป Business Client Platforms, Intel

แพลตฟอร์ม Intel® vPro®: รังสรรค์ขึ้นสำหรับธุรกิจ

  • การวิจัยแสดงให้เห็นว่าพนักงาน 40% จะยังคงทำงานจากระยะไกลต่อไปหลังจากที่การระบาดใหญ่สิ้นสุดลง ดังนั้นธุรกิจจึงจำเป็นต้องวางแผนโซลูชันการรักษความปลอดภัยสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่น

  • ความปลอดภัยต้องเป็นส่วนเดียวกันกับแพลตฟอร์มพีซี และไม่ใช่เป็นเพียงแค่โซลูชันซอฟต์แวร์เท่านั้น

  • แพลตฟอร์ม Intel® Evo™ vPro® ส่งมอบสิทธิประโยชน์ด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัย พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของฝ่าย IT ด้วยแล็ปท็อปคลาสใหม่ที่ดูดีมีสไตล์

author-image

โดย

COVID-19 ได้พลิกโฉมการทำงานและโลกของเราในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งบังคับให้ทีม IT มากมายต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน และสนับสนุนพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล พวกเขาได้ถูกท้าทายให้สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานเสมือน ซึ่งช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะรักษาความปลอดภัยให้กับงานของพวกเขา

ทุกวันนี้ ในขณะที่เราย่างเข้าปี 2021 ผู้นำด้าน IT ต้องเผชิญหน้ากับ “ความปกติใหม่” แม้หลังจากที่การระบาดใหญ่สิ้นสุดลง ผลการวิจัยของ Gartner พบว่าพนักงานว่า 40% มีแนวโน้มที่จะทำงานจากระยะไกลต่อไปอีกสักพักหนึ่ง

ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การทำงานจากระยะไกลจะคงมีอยู่ต่อไป แต่สิ่งนี้ก็มาพร้อมกับคำถามใหม่เช่นกันว่า เราจะยังสามารถรักษาความปลอดภัยได้ หรือไม่

การทำงานจากระยะไกลแบบถาวรได้มาพร้อมกับความท้าทายใหม่ในการรักษาความปลอดภัย

การเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลโดยฉับพลันได้ทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะพีซีของเรา ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการทำงานให้เสร็จ แต่ยังเป็นหน้าต่างสำหรับใช้ประสานงานกับพาร์ทเนอร์ และเพื่อนร่วมงานจากทั่วโลก

แต่ก่อนอื่น ผู้นำด้าน IT จำเป็นต้องรักษาความปลอดภัยให้ได้เสียก่อน ในฐานะที่ผมทำงานร่วมกับฝ่าย Business Client Platforms ที่ Intel บริษัทที่ส่งมอบพีซีที่ใช้แพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจ ผมเชื่อว่านี่เป็นหนทางเดียวที่บริษัท และพนักงานจะสามารถรักษาสิทธิประโยชน์ของสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นทั้งในปัจจุบัน และอนาคตไว้ได้อย่างเต็มที่

ผู้นำด้าน IT รู้จักความท้าทายเป็นอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT 87% กล่าวว่าการเปลี่ยนไปใช้การทำงานจากระยะไกลอย่างรวดเร็ว ได้เพิ่มความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว และความจำเป็นในการยกระดับการปกป้องข้อมูลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และ 73% ได้กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์จะกลายมาเป็นปัญหาที่ใหญ่ยิ่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยรวมแล้ว พวกเขาให้คะแนนความเสี่ยงในการละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์อยู่ที่ 7.4 คะแนน จากคะแนน 1 ถึง 10 ที่จริงแล้ว ความท้าทายด้านความปลอดภัยนั้นอยู่ในการดำเนินงานทุกอย่างของธุรกิจ ตั้งแต่ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และการประสานงานกับทีม ไปจนถึง IP และข้อมูลองค์กรที่มีความอ่อนไหว

"ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT 87% กล่าวว่าการเปลี่ยนไปใช้การทำงานจากระยะไกลอย่างรวดเร็ว ได้เพิ่มความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว และความจำเป็นในการยกระดับการปกป้องข้อมูลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และ 73% ได้กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์จะกลายมาเป็นปัญหาที่ใหญ่ยิ่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"

- Stannelie Hallfort, รองประธาน Client Computing Group, ผู้จัดการทั่วไป Business Client Platforms, Intel

กุญแจสำคัญ 3 ประการสู่ความปลอดภัยในปี 2021 และในอนาคต

มีแนวคิดบางอย่างเกิดขึ้นในขณะที่ฉันได้สนทนากับผู้นำด้าน IT และธุรกิจ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในระดับชั้นนำ จากสิ่งที่ฉันได้ยินมา ฉันได้ค้นพบกุญแจสำคัญ 3 ประการที่จะขับเคลื่อนความปลอดภัยไปข้างหน้าได้

ความปลอดภัยจำเป็นต้องถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มพีซีตั้งแต่ในระดับฮาร์ดแวร์ - ไม่ใช่การติดตั้งเสริม ในปีที่ผ่านมา มีช่องโหว่การโจมตีที่รายงานเข้ามามากกว่าครึ่งที่ไม่สามารถแก้ไขโดยใช้ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียวได้ ในขณะที่ทีม IT คิดเกี่ยวกับกลุ่มอุปกรณ์พีซีของพวกเขา พวกเขาจำเป็นพึ่งพาการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพในระดับฮาร์ดแวร์ และขีดความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามเพื่อตอบโจทย์ความท้าทาย และก้าวข้ามปัญหาสำคัญด้านความปลอดภัยได้ แนวทางด้านแพลตฟอร์มนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการลดผลกระทบด้านประสิทธิภาพจากซอฟต์แวร์ความปลอดภัย ในขณะที่ให้การปกป้องต่อภัยคุกคามที่มีอยู่อย่างแพร่หลายได้ นั่นหมายความว่าพนักงานจะสามารถทำงานให้แล้วเสร็จได้อย่างปลอดภัย และผู้จัดการฝ่าย IT สามารถมุ่งเน้นไปที่เรื่องสำคัญอื่นๆ ได้

การจัดการจากระยะไกลจะต้องเป็นสิ่งที่ง่าย และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทีม IT กำลังค้นหาวิธีการที่จะบริหารจัดการเครือข่าย และกลุ่มเครื่องพีซีของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย แม้ในขณะที่พนักงานและอุปกรณ์มักจะ หรือต้องอยู่นอกสำนักงานเสมอก็ตาม พวกเขาควรมองหาเครื่องมือสำหรับการจัดการระยะไกลที่ปลอดภัย - ซึ่งใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และบนทุกอุปกรณ์ แม้ว่าจะเป็นแบบ In-Band, Out-of- ฺBand, ในสถานที่ทำงาน หรือในระบบคลาวด์ก็ตาม

ความปลอดภัยและผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จำเป็นต้องตระหนักว่าการรักษาความปลอดภัยไม่ใช่งานที่ทำครั้งเดียวจบ - แต่เป็นงานที่จำเป็นต้องลงทุนในนวัตกรรม นี่เป็นหนทางเดียวที่จะสามารถป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เติบโต เปลี่ยนแปลง และมุ่งเป้าไปที่พื้นที่ใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น การขุดเหมืองคริปโต และแรนซอมแวร์ นี่หมายความว่าทีม IT จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่มีความเสถียร เพื่อที่พวกเขาจะสามารถปรับใช้การอัปเดตทั่วทั้งธุรกิจได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องพีซีทั้งหมด และชุมชนด้านความปลอดภัยก็จำเป็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยใหม่ๆ และก้าวล้ำภัยคุกคามทางไซเบอร์อยู่เสมอ

การรักษาความปลอดภัยที่ก้าวหน้าจะนำมาซึ่งวิธีการทำงานจากระยะไกลใหม่ๆ

ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ทีม IT และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกำลังดำเนินการเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การทำงานจากระยะไกลที่ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม นักวิจัยได้ใช้เวลานานกว่าหนึ่งทศวรรษในการทำงานกับเทคโนโลยีความปลอดภัย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของการทำงานจากระยะไกลที่แพร่หลายในทุกวันนี้ได้ พร้อมกับส่งเสริมความเข้ากับได้ของอุปกรณ์ และตัวเลือกในด้านระบบ แพลตฟอร์มใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจโดยเฉพาะ และได้รวมฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา เฉกเช่น การรักษาความปลอดภัยในตัว และการจัดการความปลอดภัยจากระยะไกล

สิ่งเหล่ามีคุณค่ายิ่งก่อนที่จะเกิดวิกฤติ COVID-19 ขึ้น และตอนนี้ก็ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบางบริษัทไปแล้ว และในขณะที่ธุรกิจต่างๆ เลือกใช้การทำงานจากระยะไกลในแบบระยะยาว ทีม IT ก็ได้เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงแบบถาวร ไม่ใช่เพียงความเร่งรีบเพียงชั่วคราวเท่านั้น

นี่เป็นสิ่งสำคัญสองสามประการที่ธุรกิจควรจะคำนึงถึงในขณะที่เลือกใช้งานแพลตฟอร์มความปลอดภัย:

  • ฮาร์ดแวร์มีความสำคัญยิ่ง และจะก้าวขึ้นมาทำในสิ่งที่ซอฟต์แวร์ทำไม่ได้ ในขณะที่เราตรวจพบช่องโหว่ในการโจมตีมากขึ้น และการโจมตีที่อันตรายก็มีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม นี่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงความสอดคล้องกันระหว่างฮาร์ดแวร์ เฟิร์มแวร์ และระบบปฏิบัติการสำหรับแอปพลิเคชันที่ธุรกิจใช้ และข้อมูลที่ธุรกิจเข้าถึง ทีม IT จะสามารถปรับใช้นโยบายด้านความปลอดภัยของจุดปลายทางที่ครอบคลุมได้อย่างง่าย ซึ่งจะมาเติมเต็มกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยขององค์กรผ่านการซื้อพีซีที่มีการรักษาความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ในตัว และฟีเจอร์ความสามารถในการจัดการ ซึ่งจะช่วยปกป้องฮาร์ดแวร์ เฟิร์มแวร์ และระบบปฏิบัติการ
  • ฟีเจอร์ทั้งหมดไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียม - จงเลือกอย่างชาญฉลาด พิจารณาแง่มุมสำคัญขององค์กร และมองหาฟีเจอร์ที่มีอยู่ผ่านข้อเสนอต่างๆ เฉกเช่น แพลตฟอร์ม Intel® vPro® เพื่อค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลหลายคน ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ความสามารถในการจัดการจากระยะไกลควรเป็นสิ่งที่อยู่อันดับต้นๆ ที่คุณต้องคำนึงถึง
  • สิ่งที่ความสำคัญเกือบเทียบเท่ากับฟีเจอร์ที่รวมอยู่นั้นก็คือ การสนับสนุนและการรับรองความปลอดภัยหลังการซื้อ คุณจะพึ่งพาบริษัทที่มีแต่โปรแกรมไล่ล่าบักอย่างเดียวงั้นเหรอ มองหาแพลตฟอร์มที่จะช่วยเหลือแผนก IT ของคุณในทุกขั้นตอนการซื้อ และกระบวนการหลังจากการซื้อ รวมถึงความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น ความซับซ้อนของวงจรการใช้งาน และความมีเสถียรภาพของกลุ่มเครื่องพีซี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มใดๆ ที่คุณกำลังพิจารณาได้ส่งมอบสิ่งที่ฝ่าย IT ต้องการ และสิ่งที่พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านต้องการ

เรามุ่งมั่นที่จะทำให้การทำงานจากระยะไกลเป็นการทำงานที่ปลอดภัย เนื่องจากในฐานะอุตสาหกรรมแล้ว เราทราบดีว่าความปลอดภัยเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการจัดการด้าน IT ที่แข็งแกร่ง การทำงานจากระยะไกลแบบไดนามิก และความสำเร็จทางธุรกิจในทุกวันนี้ และในโลกหลังการระบาดใหญ่สิ้นสุดลง

เวอร์ชันของบทความนี้จะมีอยู่บน Forbes สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่ Intel ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมเพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานจริงให้กับลูกค้าของเรา โปรดเข้าชมได้ที่นี่