อุตสาหกรรม 4.0 ขับเคลื่อนการผลิตอันชาญฉลาด
จาก edge อัจฉริยะสู่เวิร์คโหลดการสร้างโมเดลและการจำลองที่ใช้ HPC เทคโนโลยีกำลังเร่งผลักดันวิธีการใหม่ๆ และมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นให้กับภาคส่วนอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรม 4.0 และการผลิตอันชาญฉลาด
การผลิตและการดำเนินงานธุรกิจอุตสาหกรรมกำลังได้รับการปฏิรูปจากการหลอมรวมของเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ Information Technology (IT) และระบบเทคโนโลยีปฏิบัติงานหรือ Operational Technology (OT) ไว้บนแพลตฟอร์มระบบคอมพิวเตอร์แบบร่วมใช้กันอันชาญฉลาดและปรับเน้นเพื่ออุตสาหกรรม การผสานรวมกันนี้ทำให้เกิดระบบที่ตอบสนองไวและเชื่อมต่อกัน ซึ่งช่วยขจัดปัญหาการทำงานโดยลำพังและเอื้อให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น และมีความยืดหยุ่นและควบคุมได้มากขึ้น โดยมีระบบคอมพิวเตอร์เอดจ์ขับเคลื่อน
ด้วยการมีระบบอัจฉริยะมากขึ้นที่เอดจ์ ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์เอดจ์ ปัญญาประดิษฐ์ และการหลอมรวมเวิร์กโหลด ผู้ผลิตสามารถตรวจจับ ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์เอดจ์ได้มากขึ้น ข้อมูลสามารถที่จะได้รับการวิเคราะห์ใกล้กับจุดที่รวบรวมและใช้ข้อมูลนั้น และผู้ผลิตสามารถทำการปรับเปลี่ยนให้กับระบบปฏิบัติการได้แบบเกือบเรียลไทม์
ระบบเอดจ์อัจฉริยะเป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรม 4.0 และการผลิตอันชาญฉลาด โดยช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสารสนเทศจากหลายๆ เซนเซอร์ แอปพลิเคชัน และกระบวนการต่างๆ ใกล้กับจุดที่มาของข้อมูล ซึ่งช่วยให้ลดเวลาการหยุดทำงาน ปรับเน้นการปฏิบัติงาน ดำเนินกระบวนการแบบอัตโนมัติ และแจ้งให้ทราบถึงโซลูชันใหม่ โครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ช่วยให้เกิดการวิเคราะห์แบบเกือบเรียลไทม์ในห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิผล การผลิต และการมองเห็นข้อมูลยิ่งขึ้น
เมื่อ IT กับ OT มาบรรจบกัน HPC สำหรับการผลิตจึงช่วยให้ผู้ผลิตใช้เวิร์คโหลดการสร้างโมเดลและการจำลองกับ ระบบ HPCแบบกระจาย ทั้งในคลาวด์และในสถานที่ เพื่อช่วยปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น ระบุความท้าทายในการผลิตและปรับปรุงผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดีขึ้น
การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์เหล่านี้ส่งผลให้การดำเนินการผลิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างชาญฉลาดมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ในฐานะคุณเป็นพาร์ทเนอร์อุตสาหกรรม 4.0 ทาง Intel สามารถช่วยเร่งเวลารับคุณค่าจากโซลูชัน Industrial Internet of Things (IIoT) ที่ทำงานร่วมกันได้โดยมีข้อมูลขับเคลื่อน ด้วยระบบนิเวศของเหล่านักสร้างสรรค์นวัตกรรมและกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันที่ยืดหยุ่นของเรา เราสามารถช่วยคุณพัฒนาและรวมโซลูชัน edge และ HPC อัจฉริยะสำหรับอุตสาหกรรม ที่นำไปสู่การลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร และก้าวนำคู่แข่ง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ของเราครอบคลุมโซลูชันที่หลากหลายที่โรงงานต้องการ และเทคโนโลยีสำหรับ IoT ของเราครอบคลุม edge เครือข่าย ศูนย์ข้อมูล และคลาวด์ ที่มาพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐาน IoT อัจฉริยะที่คล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบคอมพิวเตอร์ประหยัดพลังงานที่สามารถนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปยังสถานที่ใหม่ๆ หรือเซิร์ฟเวอร์เอดจ์ที่สามารถทำงานวิเคราะห์ อย่างเช่น การคาดคะเนอุปสงค์ Intel สามารถช่วยให้คุณปรับใช้โซลูชันโรงงานอันชาญฉลาดที่สามารถทำให้การผลิตงานก้าวข้ามไปสู่ระดับใหม่ พร้อมกับหยิบยื่นโอกาสใหม่ๆ ให้ทำกำไรเพิ่มยิ่งขึ้น
รูปแบบการใช้งานการผลิตอันชาญฉลาด
การผลิตอันชาญฉลาดและการผลิตแบบดิจิทัลใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์และการเชื่อมต่อกันระหว่างเครื่องเพื่อให้เกิดระบบอัตโนมัติและการวิเคราะห์
การหลอมรวมของเวิร์กโหลดอุตสาหกรรม
เวิร์กโหลดการผลิตมากมาย ซึ่งมักจะทำงานบนอุปกรณ์ที่กระจายทั่วโรงงาน สามารถทำให้เป็นแบบจำลองเสมือนและผสานรวมไว้บนพีซีอุตสาหกรรมเดียว (IPC) ได้ การมาบรรจบกันนี้ส่งผลให้เกิดข้อดีต่างๆ เช่น การจัดการข้อมูลและแอสเซทที่สอดคล้องกัน ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และการวิเคราะห์แบบเกือบเรียลไทม์
การสร้างโมเดล การจำลองและวิศวกรรมที่ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย
ผู้ผลิตกำลังเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงกระบวนการ และพัฒนาวิศวกรรมใหม่ๆ โดยใช้ระบบ HPC ในการรันเวิร์คโหลดที่ซับซ้อนบนหลายร้อยหรือหลายพันโหนดแบบคู่ขนาน มาดูสิ่งที่คุณสามารถทำได้เมื่อใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้สำหรับ HPC
วิสัยทัศน์ของเครื่องจักร
ไม่ว่าจะเป็นการติดตามสินทรัพย์หรือระบบหุ่นยนต์ หลายสิ่งหลายอย่างที่ IoT มีให้ในการผลิตที่จะช่วยคุณได้นั้นเกี่ยวข้องกับการทำให้เครื่องจักรสามารถมองเห็นและตัดสินใจแบบเรียลไทม์ได้ Intel มีสารพัดโซลูชันที่พร้อมใช้งานและเครื่องมือการพัฒนาที่สามารถช่วยเร่งความเร็วให้คุณเดินหน้าสู่วิทัศน์คอมพิวเตอร์ด้านอุตสาหกรรม
การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
ผู้ผลิตสามารถวิเคราะห์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่พวกเขาจะเผชิญกับความผิดปกติและความล้มเหลวที่มีต้นทุนสูง โดยการบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลของเครื่องแบบเรียลไทม์
การผลิตที่ยั่งยืน
กระบวนการผลิตสินค้าและบริการที่เข้มข้นด้วยข้อมูลสามารถช่วยเผยให้เห็นโอกาสที่จะลดการสร้างมลพิษ อนุรักษ์แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ และลดการเผาพลาญพลังงานด้วย
หุ่นยนต์อุตสาหกรรม
ระบบอัตโนมัติและวิทัศน์เครื่องจักรในการผลิตที่เกิดขึ้นได้ด้วย IoT ทำให้การผลิตแบบแยกส่วนและการผลิตแบบกระบวนการมีประสิทธิผลและปรับตัวได้มากขึ้น หุ่นยนต์ไม่เพียงเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังสามารถปรับให้ตอบสนองความเปลี่ยนแปลงตามต้องการได้ทันที
5G และการเชื่อมต่อ Industrial Internet of Things
การแลกเปลี่ยนข้อมูลความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องระหว่างเครื่องจักรและระบบองค์กรถือว่าเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรม 4.0 โรงงานอัจฉริยะโดยทั่วไปต้องใช้หลากหลายโซลูชันการเชื่อมต่อ แต่ 5G เปลี่ยนโฉมความเร็วและการให้บริการการเชื่อมต่อไปโดยสิ้นเชิง
การใช้งานอุตสาหกรรม 4.0
Edge อัจฉริยะ
การรวมระบบ IT/OT เข้าใน edge อัจฉริยะที่เป็นหนึ่งเดียว สร้างระบบที่เชื่อมต่อระหว่างกันที่ตอบสนองได้ดี ซึ่งช่วยลดปัญหาข้อมูลด้านเดียวและช่วยให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับความยืดหยุ่นและการควบคุมที่เพิ่มขึ้น
ด้วยความอัจฉริยะที่มากขึ้นที่ Edge จากการประมวลผลที่ Edge, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Real-Time Computing, Virtualization, Functional Safety ฯลฯ - ผู้ผลิตสามารถบันทึก ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมจากอุปกรณ์ Edge ได้ โดยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลนั้นได้ใกล้กับจุดที่เก็บรวบรวมและใช้งานได้มากขึ้น และผู้ผลิตสามารถทำการปรับระบบปฏิบัติการได้แบบเกือบเรียลไทม์ เพื่อลดเวลาหยุดทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ปรับกระบวนการให้เป็นอัตโนมัติ และสร้างโซลูชั่นใหม่ๆ การผลิตที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ช่วยให้เกิดการวิเคราะห์แบบเกือบเรียลไทม์ในห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิผล การผลิต และการมองเห็นข้อมูลยิ่งขึ้น
AI ในการผลิต
อุปกรณ์ IoT และโรงงานที่เชื่อมต่อสร้างข้อมูลจำนวนมหาศาล AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ช่วยให้ประมวลผลและวิเคราะห์ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้ประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น เช่น ข้อมูลโรงงานที่เชื่อมต่อสามารถสร้างข้อมูลเชิงลึกในการผลิตแบบเกือบเรียลไทม์ ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจขององค์กรของคุณ ในการออกแบบผลิตภัณฑ์และโครงสร้าง วิธีการ AI สามารถช่วยให้วิศวกรระบุปัญหาและประเมินทรัพยากรที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที AI ที่ใช้ฟิสิกส์ช่วยให้วิศวกรสามารถคาดคะเนการออกแบบโซลูชั่นได้จากฐานความรู้เกี่ยวกับโซลูชั่นต่างๆ
เนื่องจากตลาดการผลิตได้รวมการปฏิบัติงานหลากหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน โซลูชั่นที่ออกแบบมาสำหรับเวิร์กโหลดด้าน AI ในส่วนนี้จึงต้องทำให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลายสำหรับประสิทธิภาพ พลังงาน ขนาด ฟอร์มแฟกเตอร์ และต้นทุน
การคำนวณผลแบบเรียลไทม์
ในระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม ต้องมีการทำงานแบบเรียลไทม์บางอย่างให้เสร็จสิ้นตามกำหนดเวลาที่เข้มงวดเพื่อป้องกันความผิดพลาดของระบบที่สำคัญ ซึ่งทำให้ระบบที่ทำงานเหล่านี้จำเป็นต้องทำงานในขีดจำกัดด้านเวลาที่เฉพาะเจาะจงและคาดการณ์ได้ ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าสามารถดำเนินการและตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที การพลิกโฉมทางอุตสาหกรรมที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนงานแบบเรียลไทม์ไปพร้อม ๆ กับเวิร์กโหลดด้านการทำงานที่เหมาะสมที่สุดในระบบเดียวกันด้วยการปรับใช้การปรับเวิร์กโหลดหรืองานให้เหมาะสมกับการประยุกต์ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลา
นอกจากการประยุกต์ใช้งานแบบเรียลไทม์แล้ว การรับส่งข้อมูลเครือข่ายในสภาพแวดล้อมการผลิตจะต้องเป็นไปตามความต้องการด้านความหน่วง การให้การรองรับมาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อกำหนด IEEE 802 TSN เพื่อสนับสนุนให้การประยุกต์ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาสามารถมีการสื่อสารที่มีความหน่วงต่ำและความน่าเชื่อถือสูงเป็นพิเศษและให้ระบบนิเวศแบบเปิดสำหรับการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ได้
Intel® Time Coordinated Computing (TCC) ให้การปรับแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับการรองรับเวิร์กโหลดแบบเรียลไทม์ที่ทำงานไปพร้อม ๆ กับเวิร์กโหลดด้านการทำงานที่เหมาะสมที่สุดได้ดียิ่งกว่า Intel TCC ประกอบด้วยการปรับชิปประมวลผลและซอฟต์แวร์ให้เหมาะสม ซึ่งประกอบด้วยการรองรับ IEEE TSN ที่ลดความล่าช้าและปรับปรุงการซิงค์สัญญาณนาฬิกาเพื่อการรองรับเวิร์กโหลดแบบเรียลไทม์
ระบบเสมือนจริง
เทคโนโลยีการจำลองเสมือนเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิด Workload Consolidation ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างสภาพแวดล้อมแบบแยกที่มีความแตกต่าง ซึ่งแต่ละที่จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติของตัวเองในแพลตฟอร์มเดียวที่แข็งแกร่ง แนวทางนี้จะแทนที่ตัวฮาร์ดแวร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเป็นจำนวนมากด้วยชุดแพลตฟอร์มการประมวลผลสำหรับการใช้งานทั่วไปที่น้อยกว่า ซึ่งช่วยลดโครงสร้างพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์โดยรวมลง องค์กรต่าง ๆ สามารถปรับการทำงานของตนให้เหมาะสม และลดต้นทุนได้ด้วยการใช้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้แหล่งข้อมูลที่มีอยู่ ในส่วนการผลิตและระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม โซลูชั่นการจำลองเสมือนต้องรองรับการรวมทั้งเวิร์กโหลดแบบเรียลไทม์และแบบที่ไม่ใช่เรียลไทม์เข้าไว้ด้วยกัน
ความปลอดภัยในการทำงาน
เมื่อการโต้ตอบระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรเริ่มเป็นส่วนสำคัญต่อการผลิตมากขึ้น ความสำคัญของความปลอดภัยในการทำงานก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ความปลอดภัยในการทำงานจำเป็นต้องมีการปรับใช้ระบบการป้องกันอัตโนมัติที่สามารถตรวจจับและลดการทำงานผิดปกติในระบบเครื่องจักรต่าง ๆ เช่น หุ่นยนต์ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงควมปลอดภัยของมนุษย์ การปฏิบัติตามมาตรฐานต่าง ๆ เช่น IEC 61508 (สำหรับการประยุกต์ใช้งานทางอุตสาหกรรม) และ ISO 13849 (สำหรับตัวควบคุมหุ่นยนต์) จะช่วยเร่งความเร็วการพัฒนาการประยุกต์ใช้งานต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญกับควมปลอดภัย
อุตสาหกรรม 4.0 คืออะไร และเอดจ์อัจฉริยะช่วยผลักดันให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ หรืออุตสาหกรรม 4.0 นำเอาโลกดิจิทัลและกายภาพมาบรรจบกันโดยใช้ข้อมูล อุตสาหกรรม 4.0 ปูทางสู่ความก้าวหน้าใหม่ๆ ในภาคส่วนอุตสาหกรรม โดยการบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่ edge และยกระดับข้อมูลเชิงลึกเชิงวิเคราะห์ใหม่ผ่านแอปพลิเคชัน HPC
เช่น ความสามารถในการผลิตอัจฉริยะแบบอัตโนมัติ (เช่น การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ เพื่อลดเวลาหยุดทำงานและการติดตามแอสเซทอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชน) ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เชิงลึกมากขึ้นและถูกต้องมากขึ้นสำหรับแอปพลิเคชั่นต่างๆ (เช่น computational fluid dynamics) นั่นหมายถึง อุตสาหกรรม 4.0 เป็นตัวแปรสำคัญในการปลดล็อคความเป็นไปได้ใหม่ๆ และประโยชน์ทางธุรกิจสำหรับผู้ผลิต
ด้วยพลังระบบคอมพิวเตอร์มากขึ้นที่เอดจ์ ธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมต่อสิ่งที่ไม่อาจเชื่อมต่อกัน หลอมรวมและสร้างจำลองเสมือนให้เวิร์กโหลดหลักๆ และวางรากฐานเพื่อการผนึกรวม IoT ล่าสุดไว้ในรูปแบบการใช้งานการผลิต
เพื่อจะนำเอาความอัจฉริยะไปสู่เครื่องจักรและอุปกรณ์ให้มากขึ้น อุตสาหกรรม 4.0 จึงมีการเปิดใช้งานโดยสถาปัตยกรรมแบบเปิด โซลูชันตามมาตรฐาน เทคโนโลยีเอดจ์ เครือข่าย และคลาวด์ ตลอดจนความก้าวหน้าอื่นๆ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเอาข้อได้เปรียบของ IT ไปสู่ OT
จึงเป็นการง่ายกว่าเดิมมากที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์แบบยืดหยุ่นและง่ายต่อการอัปเดต เพื่อจัดการควบคุมและปรับเน้นประสิทธิภาพเครื่องจักรในการผลิตแบบแยกส่วนและการผลิตแบบกระบวนการ ด้วยการมาของ 5G และอุปสรรคที่น้อยลงในการนำเอา AI มาใช้ โรงงานที่เปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลในทุกขนาดและทุกระดับชั้นต่างสามารถโอบรับสิ่งที่อุตสาหกรรม 4.0 มีให้ได้
เรื่องราวความสำเร็จของการผลิตอย่างชาญฉลาด
อุตสาหกรรม 4.0 สร้างความก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี Intel® พาร์ทเนอร์ของเรากำลังหาแนวทางใหม่ๆ ในการเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วย IoT การวิเคราะห์และเทคโนโลยีการสร้างโมเดล
BMW ทำให้การนำเอา AI มาใช้ในโรงงานเป็นเรื่องง่าย
BMW ร่วมกับ Intel และ Robotron เพื่อเอาชนะอุปสรรคในการใช้ AI ภายในโรงงาน BMW ได้นำเอาระบบที่ขับเคลื่อนด้วย Intel มาใช้ซึ่งสามารถช่วยให้พนักงานสร้างแอปพลิเคชัน AI แบบไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมกับช่วยให้ปฏิบัติตามข้อบังคับแรงงานอย่างเคร่งครัดด้วย
Royal Enfield เร่งการดำเนินการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ผู้ผลิตจักรยานยนต์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานพบว่าเวลารันไทม์เร็วขึ้น 15 เท่าสำหรับการจำลองด้วย CAE ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อใช้ระบบ HPC ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้
อุตสาหกรรม 4.0 และส่วนประกอบการผลิตอันชาญฉลาด
Intel ช่วยให้ผู้ผลิตประยุกต์ใช้และสร้างสรรค์นวัตกรรมเมื่อนำเอาแนวปฏิบัติและกระบวนการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาใช้
เครื่องพีซีสำหรับอุตสาหกรรม
หลอมรวมเวิร์คโหลดอุตสาหกรรม เช่น ระบบควบคุมเครื่องจักรและ HMI จากอุปกรณ์ที่แตกต่างมากมายมาไว้บนอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานร่วมกับ IPC ที่ขับเคลื่อนด้วย Intel ที่ทนทาน พาร์ทเนอร์ของเรานำเสนอ IPC ที่ขับเคลื่อนด้วย Intel มากมาย ซึ่งรองรับเวิร์คโหลดอุตสาหกรรมขั้นสูงสุด และปรับปรุงการทำงานแบบเรียลไทม์
ผลิตภัณฑ์ Intel® Vision
จัดให้มีรูปแบบการใช้งานในโรงงานอันชาญฉลาดล่าสุด เช่น การตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์แบบอัตโนมัติ ด้วยโซลูชันวิทัศน์คอมพิวเตอร์แบบปรับขยายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านวิทัศน์ของ Intel® เรามีให้เลือกทั้งระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานทั่วไปและตัวเร่งความเร็วเฉพาะงานสำหรับวิทัศน์เครื่องจักร
Intel® Accelerators
ปรับเน้นประสิทธิภาพระบบอุตสาหกรรมของคุณ และปฏิบัติตามข้อบังคับที่โดดเด่นและท้าทายของรูปแบบการใช้งานอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัวเร่งความเร็วของ Intel® ที่มอบประสิทธิภาพแบบยืดหยุ่นและการเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์แบบเจาะจงเวิร์กโหลด
โปรเซสเซอร์ Intel® สำหรับ Industrial Internet of Things
ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของคุณได้มากขึ้นโดยนำเอาความอัจฉริยะไปที่เอดจ์ Intel จัดให้มีสารพัดโซลูชันกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบคอมพิวเตอร์แบบปรับขยายได้สำหรับเทคโนโลยีการผลิตแบบดิจิทัลและโรงงานอันชาญฉลาด เช่น ระบบหุ่นยนต์ ระบบประมวลผลอัตโนมัติ และการวิเคราะห์เอดจ์
โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้สำหรับการใช้งาน HPC สำหรับการผลิต
ค้นหาสิ่งที่ทำให้โซลูชั่นการประมวลผลนี้เหมาะสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเวิร์คโหลดการสร้างโมเดล การจำลองและ CAE แบบกระจายของคุณ
เครื่องมือซอฟต์แวร์ในการผลิต
Intel® Edge Insights สำหรับอุตสาหกรรม
เร่งการพัฒนาและการใช้โซลูชัน AI เช่น วิทัศน์เครื่องจักรที่เอดจ์ด้านอุตสาหกรรม ด้วย Intel® Edge Insights for Industrial แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์อ้างอิงนี้จัดให้มีการออกแบบการอ้างอิงซอฟต์แวร์ที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องไว้ล่วงหน้าสำหรับวิทัศน์เครื่องจักรและการนำเข้าข้อมูลอนุกรมเวลา
Intel® Edge Control สำหรับอุตสาหกรรม
สร้างโซลูชันโรงงานอันชาญฉลาดโดยปฏิรูประบบควบคุมด้านอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มอ้างอิงซอฟต์แวร์นี้มีฮาร์ดแวร์ที่ทำงานร่วมกันได้ ซึ่งผนึกรวมระบบคอมพิวเตอร์แบบเรียลไทม์ การเชื่อมต่อ และระบบจัดการและการจำลองเสมือนในรูปแบบไอทีเข้าไว้ด้วยกัน
ชุดเครื่องมือ Intel® oneAPI HPC
ปรับการพัฒนาให้สอดคล้องด้วยแหล่งข้อมูลอิสระที่ช่วยสร้าง วิเคราะห์ เพิ่มประสิทธิภาพและปรับขยายแอปพลิเคชัน HPC ชุดเครื่องมือนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงเทคนิคล่าสุดในการแปลงเว็กเตอร์ การมัลติเธรด การสร้างมัลติโหมดคู่ขนาน และการปรับเพิ่มหน่วยความจำ เพื่อให้คุณสร้างซอฟต์แวร์การผลิตได้ง่ายขึ้นและพร้อมสำหรับ HPC
ชุดเครื่องมือวิเคราะห์ AI Intel® oneAPI
ปรับเพิ่มประสิทธิภาพ AI และซอฟต์แวร์การวิเคราะห์สำหรับ HPC ด้วย AI kit ของเรา แหล่งข้อมูลนี้มอบเครื่องมือ Python ที่คุ้นเคยและกรอบงาน AI สำหรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักพัฒนา AI และนักวิจัย เพื่อเร่งการดำเนินการวิทยาศาสตร์ข้อมูลและการวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นจนจบที่รวดเร็วขึ้บนสถาปัตยกรรม Intel®
ชุดเครื่องมือพื้นฐาน Intel® oneAPI
ปลดล็อคการตั้งโปรแกรมแบบข้ามอุตสากรรม โปร่งใสและตรงตามมาตรฐาน Intel® oneAPI Base Toolkit มาพร้อมเครื่องมือที่ปรับแต่งโดย Intel และไลบรารีที่ช่วยให้นักพัฒนาเร่งเพิ่มประสิทธิภาพได้รวดเร็วขึ้น และใช้แอปพลิเคชันแบบข้ามสถาปัตยกรรมและโมเดลการประมวลผล
ผู้แทนจำหน่ายชุดเครื่องมือ OpenVINO™ ของ Intel®
ปรับเน้นประสิทธิภาพโมเดลที่ฝึกใช้สำหรับแอปพลิเคชันด้านอุตสาหกรรม เช่น วิทัศน์เครื่องจักร ชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมนี้ช่วยให้คุณสร้าง ปรับแต่งและรันการอนุมานที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยการเขียนเพียงครั้งเดียวและใช้ได้ทุกที่อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างขึ้นเพื่ออุตสาหกรรมและพร้อมทำงาน
Intel® Partner Marketplace รวมหลากหลายผลิตภัณฑ์และผู้ให้บริการ เพื่อสร้างโซลูชันสำหรับแอปพลิเคชันการผลิตอันชาญฉลาด CAE การสร้างโมเดล/การจำลอง และอุตสาหกรรม 4.0 อื่นๆ โซลูชันเหล่านี้ผ่านการตรวจสอบการทำงานล่วงหน้าและพร้อมทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรม Intel ที่ธุรกิจส่วนใหญ่ใช้งานและช่วยให้คุณเริ่มต้นตั้งแต่แนวคิดริเริ่มไปจนถึงการสร้างคุณค่าระยะยาว
คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่พบบ่อย
อุตสาหกรรม 4.0 นำเอาเทคโนโลยีด้านดิจิทัลและกายภาพมารวมกันเพื่อสร้างปฏิบัติการที่ตอบสนองและเชื่อมต่อกัน ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทาน และปรับระบบปฏิบัติการได้แบบเกือบเรียลไทม์เพื่อลดต้นทุน ลดของเสีย คาดการณ์ปัญหา และสร้างสรรค์ข้อเสนอใหม่ๆ โดยรวมระบบปฏิบัติการและ IT ไว้บนแพลตฟอร์มประมวลผลที่ปรับเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
การผลิตอันชาญฉลาดจะผนึกรวมข้อมูลและสารสนเทศจากหลายๆ แอปพลิเคชัน กระบวนการ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถประกอบกันเพื่อสร้างโซลูชันใหม่ โดยให้มีการผลิตเชิงคาดการณ์และแบบปรับตัว และกระบวนการห่วงโซ่อุปทานที่เอื้อให้ธุรกิจเติมเต็มข้อเรียกร้องต่างๆ สำหรับผลิตภัณฑ์แบบกำหนดเองได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และตอบรับต่อความผันผวนในตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการคาดคะเนอุปสงค์
การผลิตแบบกระบวนการจะเกี่ยวข้องกับการผสานรวมส่วนประกอบและวัตถุดิบโดยใช้สูตรสำเร็จ วิธีการนี้มักนิยมใช้กันในอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก เช่น อาหารและเครื่องดื่ม การกลั่นน้ำมัน เภสัชกรรม และพลาสติก การผลิตแบบแยกส่วนจะเน้นที่ขั้นตอนสุดท้ายของการรวบรวมช้ินส่วนพร้อมวางตลาด เช่น ยานยนต์และอุปกรณ์เครื่องใช้
ด้วยเทคโนโลยีโรงงานอันชาญฉลาด เช่น การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ส่งผลให้ทั้งการผลิตแบบกระบวนการและการผลิตแบบแยกส่วนมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยลดเวลาหยุดทำงานและเพิ่มผลผลิต
การผลิตอย่างยั่งยืนเป็นวิธีการผลิตแบบองค์รวม ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้อุตสาหกรรม 4.0 และเทคโนโลยีการผลิตแบบดิจิทัล เพื่อลดมลพิษ อนุรักษ์แหล่งพลังงานและธรรมชาติ ป้องกันความปลอดภัยของพนักงาน และตอบแทนคืนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลิต์ทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน โดยต้องใช้การตรวจจับและวิเคราะห์ข้อมูลทั่วทั่งห่วงโซ่อุปทานและกระบวนการผลิต รวมทั้งระบบจัดการพลังงานและของเสีย
เอดจ์อัจฉริยะเป็นการผสมผสานกันระหว่างประสิทธิภาพระบบคอมพิวเตอร์แบบอัจฉริยะและปรับขยายได้กับ AI สำหรับเวิร์กโหลดการปฏิบัติงานด้านอุตสาหกรรม โดยสร้างโซลูชันอย่างเช่น แบบจำลองวัตถุทางกายภาพในรูปแบบดิจิทัล (Digital Twins) และ Manufacturing Execution Systems (MES)โดยทำให้เกิดโซลูชัน อย่างเช่น แบบจำลองวัตถุทางกายภาพในรูปแบบดิจิทัล (Digital Twins) และ Manufacturing Execution Systems (MES) การผสมผสานนี้เกิดจากการมาบรรจบกันของเวิร์กโหลด และการปรับเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานซอฟต์แวร์สำหรับแพลตฟอร์มการประมวลผลที่ edge
แพลตฟอร์มเอดจ์อัจฉริยะมีข้อดีให้มากมาย รวมถึงการลดต้นทุน การรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น การผลิตงานที่มากขึ้น และประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ที่ดีขึ้น เอดจ์อัจฉริยะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถรันได้หลายๆ เวิร์กโหลดในอุปกรณ์มาตรฐาน เป็นการขจัดความจำเป็นในการโยกย้ายข้อมูลปริมาณมากจากพื้นที่ปฏิบัติงานไปยังคลาวด์ อีกทั้งยังช่วยจัดการคุณภาพได้อย่างเข้มข้นด้วยการตรวจหาจุดบกพร่องในผลิตภัณฑ์แบบเกือบเรียลไทม์ การปรับเน้นประสิทธิภาพกระบวนการและห่วงโซ่อุปทาน และการเพิ่มการใช้ประโยชน์ในสินทรัพย์ โมเดลธุรกิจแบบใหม่ทั้งหมดก็สามารถมีขึ้นได้เช่นกันโดยเพียงเพิ่มเวิร์กโหลดใหม่เข้าไป
ผู้ผลิตใช้ระบบ HPC แบบกระจายในการรันเวิร์คโหลดที่ซับซ้อน เช่น การจำลองการชนหรือการสร้างโมเดล fluid dynamic เนื่องจากระบบ HPC มีประสิทธิภาพสูงมาก จึงสามารถทำการคำนวณที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและภายในพารามิเตอร์เวลาที่ยอมรับได้ ผู้ผลิตสามารถเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปรับการออกแบบและระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพได้ โดยใช้สถาปัตยกรรม high performance computing สำหรับความต้องการการวิเคราะห์ HPC, HPC AI และการจำลอง HPC
ระบบ HPC มอบแรงม้าในการประมวลผลซึ่งเป็นที่ต้องการโดยเวิร์คโหลดและงาน CAE ขั้นสูง ผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรของคุณสามารถยกระดับประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของระบบ HPC เพื่อขยายขอบเขตและความลึกของความพยายาม ทำการวิเคราะห์ที่แม่นยำมากขึ้น และเร่งเวลาในการสร้างมูลค่าให้กับโครงการของพวกเขาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น