ผู้ที่ชอบสตรีมไม่น่าต้องเจอกับปัญหาอาการกระตุกที่มากเกินไปหรืออัตราเฟรมที่ลดลง แต่ทว่าบางครั้งข้อบกพร่องเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ โชคดีที่มีการป้องกันไว้ก่อนจำนวนหนึ่งที่คุณสามารถทำและปรับแต่งเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการสตรีมสดของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะสตรีมบน Twitch*, Mixer* หรือ YouTube* เรามีวิธีการสองสามประการที่จะวินิจฉัยได้ว่าทำไมจึงเกิดอาการกระตุกอย่างมาก และหาวิธีการหยุดการบัฟเฟอร์ขณะสตรีม
เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยคุณลดอาการกระตุก และแก้ไขปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการสตรีมของคุณที่ผู้ชมคนอื่นๆ รายงานเข้ามา หรือเมื่อคุณพบปัญหาเกี่ยวกับอัตราเฟรมที่ลดลงผ่านการใช้ชุดการถ่ายทอดสด เช่น Open Broadcast Studio* (OBS)
ระบุปัญหา
ตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์
ปัญหาการบัฟเฟอร์มักเกิดจากเรื่องง่ายๆ ดังเช่น การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์การนำเข้าที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเชื่อมต่อด้วยสำหรับการสตรีม ก่อนที่คุณจะเข้าสู่ระบบ Twitch*, YouTube* หรือ Mixer* ให้ทำการทดสอบ Ping เพื่อยืนยันว่าคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงกับคุณ การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเมลเบิร์นในขณะที่คุณอยู่ในนิวยอร์กจะทำให้คุณไม่ได้ค่า Ping ที่ดีที่สุด
ตรวจสอบว่าไม่ได้เปิดโปรแกรมไว้ในพื้นหลัง
หากคุณเคยสำรองข้อมูลไฟล์คอมพิวเตอร์ของคุณ หรือมีบัญชีระบบคลาวด์ที่ซิงค์อยู่อย่างต่อเนื่อง ให้ลองปิดทั้งสองอย่างก่อนที่จะเริ่มการสตรีมอีกครั้งเพื่อช่วยให้มีแบนด์วิดธ์เหลือมากขึ้น การสตรีมจะใช้ข้อมูลอัปโหลดมากพอสมควร ซึ่งมักจะถูกจำกัดในการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับความเร็วในการดาวน์โหลด การหยุดโปรเซสในพื้นหลังจะเพิ่มทรัพยากรให้คุณเมื่อคุณสตรีมสด และควรตรวจสอบดูว่ามีใครในเครือข่ายของคุณที่กำลังใช้โปรแกรมที่ใช้แบนด์วิดธ์สูงหรือไม่
ตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ
การถ่ายทอดวิดีโอเกมมักจะต้องใช้การอัปโหลดทั้งในวิดีโอและเสียงในแบบเรียลไทม์ ซึ่งบางครั้งรวมถึงวิดีโอที่สองของเว็บแคมที่ถ่ายตัวคุณคนเดียว และวิดเจ็ตที่คุณอาจแสดงในชุดโปรแกรมการสตรีมของคุณ คุณจะต้องใช้แบนด์วิดธ์มากพอสมควรในการแสดงทุกสิ่งในคุณภาพสูงได้อย่างไม่ติดขัด ในบางกรณี การเพิ่มแบนด์วิดธ์นั้นก็ง่ายๆ เหมือนกับการปิดซอฟต์แวร์พื้นหลังที่กำลังใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ แต่หากวิธีนั้นไม่ได้ผล ปัญหาดังกล่าวอาจเป็นเพราะความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ
ตรวจสอบดูว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณเป็นอย่างไรด้วยบริการบนเว็บดังเช่น Speedtest.net* เพื่อวิเคราะห์ความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดในปัจจุบันของคุณ ตัวเลขการอัปโหลดสามารถช่วยแนะนำวิธีการตั้งค่าการสตรีมของคุณให้สอดคล้องกับแบนด์วิดธ์ที่มีอยู่ของคุณ ตัวอย่างเช่น หากความเร็วในการอัปโหลดอยู่ที่ประมาณ 5 Mbps นั่นก็คือจำนวนข้อมูลที่คุณสามารถส่งได้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ที่ตัวเลขจำเพาะเจาะจงนี้ ให้ลองสตรีมด้วยความละเอียด 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีก่อน หากคุณยังคงประสบปัญหาการบัฟเฟอร์อยู่ ให้ลองลดความละเอียดลงเป็น 720p ที่อัตราเฟรมเดิม การอัปโหลดด้วยความละเอียดและอัตราเฟรมที่ต่ำลงจะใช้แบนด์วิดธ์น้อยลง
ถึงแม้ว่าจะไม่มีมาตรฐานเดียวสำหรับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ควรใช้ในขณะที่สตรีม คุณก็สามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้จนกระทั่งคุณพบค่าที่เหมาะสมสำหรับการตั้งค่าเฉพาะเจาะจงของคุณ ในกรณีส่วนใหญ่ ความละเอียดต่ำสุดที่คุณสามารถสตรีมใน HD ได้คือ 854 x 480 ดังนั้นจึงสามารถทำเช่นนั้นได้ด้วยปริมาณแบนด์วิดธ์ที่จำกัด
อย่าลืมว่าการทดสอบความเร็วที่ตรงไปตรงมาไม่ได้ให้การวิเคราะห์ความเร็วในการอัปโหลดของคุณที่ดีที่สุดเสมอไป การทดสอบเหล่านี้เป็นเครื่องมือทั่วไปที่ใช้เพื่อวิเคราะห์คุณภาพการเชื่อมต่อโดยรวมของคุณ ซึ่งตรงข้ามกับวิธีที่คุณโต้ตอบกับ Twitch*, Mixer* หรือ YouTube* อย่างเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตาม หากความเร็วในการอัปโหลดของคุณเกิดอาการสะดุด นั่นเป็นตัวชี้วัดที่ดีมากว่าคุณต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณ และขอเพิ่มแบนด์วิดธ์การอัปโหลด หรือประสานงานให้ผู้ให้บริการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
วิธีดำเนินการสตรีมทดสอบ
หากคุณยังคงประสบกับการบัฟเฟอร์และอัตราเฟรมที่ลดลงในการสตรีมของคุณแม้ว่าจะตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและปรับเปลี่ยนอัตราบิตของคุณแล้ว ให้ลองเปิดบริการสตรีมมิ่งที่ชื่อ "ทดสอบการสตรีม” เพื่อช่วยวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวเพิ่มเติม โดยพื้นฐานแล้วนี่เป็นการถ่ายทอดเปล่าๆ ที่ให้คุณทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในขณะที่คุณเชื่อมต่อกับไลฟ์เซิร์ฟเวอร์ ประโยชน์ข้อหนึ่งของการดำเนินการทดสอบการสตรีมมิ่งคือ การทดสอบนี้สามารถช่วยกำหนดว่าปัญหาของคุณเกี่ยวข้องกับแบนด์วิดธ์หรืออัตราบิตหรือไม่ ซึ่งช่วยให้คุณวินิจฉัยปัญหาได้ดีขึ้น
การทดสอบประเภทนี้แตกต่างกันไปตามบริการสตรีมมิ่งต่างๆ แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การทดสอบนี้ต้องใช้เวลาสักเล็กน้อยในการดำเนินการวินิจฉัย Twitch” และ Mixer” นำเสนอเครื่องมือเฉพาะที่ช่วยคุณค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ แนวทางการสตรีมมิ่งทดสอบของ YouTube* จะพุ่งเป้าไปที่ผู้ชมทั่วไป คุณสามารถใช้การสตรีมทดสอบเพื่อทดสอบคุณภาพของอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เชื่อมต่ออยู่ได้ด้วย และทดสอบว่าการสตรีมดังกล่าวเห็นหรือได้ยินคุณในระหว่างที่ออกอากาศสดหรือไม่
Twitch*
ผู้ใช้ Twitch* มี Twitch Inspector* ที่จะคอยบันทึกคุณภาพของการสตรีมครั้งล่าสุดของคุณ หากคุณไม่ได้สตรีมมาสักพักหนึ่งแล้วและไม่มีข้อมูลให้ดึงออกมา คุณสามารถดำเนินการทดสอบการสตรีมได้โดย ติดเครื่องหมายแบนด์วิดธ์ไว้หลังคีย์การสตรีม ในตัวเข้ารหัสดังเช่น OBS เครื่องหมายจะป้องกันไม่ให้การสตรีมแจ้งผู้ติดตามของคุณว่าคุณกำลังออกอากาศสดอยู่ ดำเนินการทดสอบเป็นเวลา 5-10 นาที3 หรือนานกว่าเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอาจมีการผันผวน และอาจใช้เวลาสักครู่หนึ่งก่อนที่คุณจะสังเกตเห็นความไม่คงที่ หรือคุณสามารถตรวจสอบ Twitch Inspector ในขณะที่กำลังดำเนินการทดสอบเพื่อดูการวัดอัตราบิตในแบบเรียลไทม์ ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษว่ากราฟตกลงหรือไม่ เนื่องจากเป็นการบ่งชี้คุณภาพของการสตรีมของคุณ คุณต้องการให้กราฟดูคงที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ Twitch Inspector จะลงรายการจำนวนอัตราบิตโดยเฉลี่ยของการสตรีมไว้ในมุมขวาล่าง หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม เมนูดรอปดาวน์ “เลือกปัญหา” ทางด้านบนสุดของหน้าจอจะพาคุณไปยังหน้าการสนับสนุนที่มีประโยชน์หลากหลายหน้าของ Twitch*
โปรดทราบว่าคำเตือนข้อหนึ่งของการทำการทดสอบด้วย Twitch* Inspector คือ การทดสอบนี้จะไม่จับข้อผิดพลาดในอัตราเฟรมเนื่องจากการสตรีมว่างเปล่า Twitch Analyzer* สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ แต่คุณต้องตั้งค่าการสตรีมของคุณต้องเป็นสาธารณะเพื่อให้เครื่องมือนี้รวบรวมข้อมูลดังกล่าวได้
Mixer*
ผู้ใช้ Mixer* มี เครื่องมือที่คล้ายคลึงกัน สำหรับการดำเนินการทดสอบการสตรีม แต่มีให้สำหรับช่องทางพาร์ทเนอร์หรือนักพัฒนาเท่านั้น คุณสมบัตินี้จะไม่ปรากฏขึ้นเว้นแต่คุณจะอยู่ในการจำแนกประเภทนี้
หากคุณเป็นพาร์ทเนอร์ คุณสมบัตินี้จะพร้อมใช้งานทาง Broadcast Dashboard ในแผงการตั้งค่าหลัก ใต้ ทดสอบการสตรีม แต่จะจำกัดเวลาการสตรีมทดสอบไว้เพียงห้าชั่วโมงต่อเดือนเท่านั้น คุณจะเห็นแถบปรากฏขึ้นพร้อมลิงก์ไปยังการสตรีมเมื่อคุณเปิดใช้โหมดการทดสอบ แต่การสตรีมจะไม่ออกอากาศสดไปยังผู้ติดตามของคุณ สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พาร์ทเนอร์ อย่างน้อยคุณก็สามารถเข้าถึง การวิเคราะห์บางตัว ในการสตรีมในอดีตเพื่อดูการแจกแจงข้อมูลประชากรและข้อมูลที่คล้ายคลึงกันได้
YouTube*
คำแนะนำของ YouTube สำหรับการดำเนินการสตรีมทดสอบค่อนข้างเป็นการดำเนินการทั่วๆ ไปมากกว่า YouTube แนะนำให้ดำเนินการทดสอบความเร็วแยกต่างหากเหมือนกับการทดสอบที่กล่าวไว้ก่อนหน้าเพื่อวัดความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลด หากไม่ทำเช่นนั้น การดำเนินการสตรีมทดสอบที่ไม่มีรายการเป็นอีกวิธีหนึ่งในการทดสอบว่าการสตรีมเป็นอย่างไรเมื่อคุณออกอากาศสด แล้วจึงอ่านข้อมูลการวิเคราะห์อย่างละเอียด
ควรเริ่มตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของคุณเมื่อใด
หากคุณลองทำตามตัวเลือกที่นำเสนอไว้ที่นี่เพื่อแก้ไขการกระตุกหมดทุกวิธีแล้ว ซึ่งรวมถึงการสตรีมที่การตั้งค่าต่ำสุด แล้วคุณยังคงประสบกับวิดีโอที่มีการบัฟเฟอร์และอัตราเฟรมที่ลดลง ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเริ่มตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของคุณแล้ว
การตรวจสอบฮาร์ดแวร์จะช่วยทำให้มั่นใจว่าโปรเซสเซอร์ของคุณได้รับการระบายความร้อนด้วยพัดลมระบายความร้อน CPU แบบลมหรือน้ำพลังแรงอย่างเหมาะสม และมั่นใจว่ามีการทาซิลิโคนไปเมื่อเร็วๆ นี้อย่างถูกต้อง
วิธีที่ดีเยี่ยมในการตรวจสอบส่วนประกอบภายในของคอมพิวเตอร์คือ การดำเนินการสตรีมทดสอบในขณะที่เปิดแอปวินิจฉัย เช่น HWInfo* ไปพร้อมกัน แอปเช่นนั้นจะให้ตัววัดเฉพาะสำหรับสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจดู เช่น การใช้งาน CPU และอุณหภูมิของ CPU โปรดอ้างอิงเอกสารของ CPU เพื่อดูว่าอุณหภูมิอยู่ในช่วงการทำงานมาตรฐานหรือไม่ หากไม่อยู่ในช่วงการทำงานมาตรฐาน ตรวจสอบให้มั่นใจว่าโปรเซสเซอร์ของคุณได้รับการระบายความร้อนด้วยพัดลมระบายความร้อน CPU แบบลมหรือน้ำพลังแรงอย่างเหมาะสม และตรวจสอบว่ามีการทาซิลิโคนไปเมื่อเร็วๆ นี้อย่างถูกต้อง หากคุณเห็นว่ามีการใช้งาน CPU ที่สูง ให้ลองลดค่าที่ตั้งล่วงหน้าไว้สำหรับการเข้ารหัสหรือพิจารณาเพิ่มจำนวนโปรเซสเซอร์ของคุณ เราแนะนำให้ใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i7 เจนเนอเรชั่นปัจจุบันหรือใหม่กว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเล่นเกมและการสตรีมมิ่งพร้อมกัน
เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการทบทวนวิธีการหยุดการบัฟเฟอร์ขณะสตรีม ให้กลับมาดูที่นี่เพื่อทบทวนความรู้ได้เลย