โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2

รองรับนวัตกรรมด้านหน่วยความจำอันล้ำหน้า
รากฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพเริ่มต้นจากหน่วยความจำถาวร Intel® Optane™ อันล้ำสมัยของ Intel, หน่วยความจำคลาสใหม่ และนวัตกรรมด้านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมที่มีข้อมูลเป็นศูนย์กลาง ด้วยความจุโมดูลเดี่ยวสูงสุดถึง 512 GB ทำให้หน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™ ให้ความจุหน่วยความจำระบบได้ถึง 36 TB เมื่อใช้งานควบคู่กับ RAM แบบดั้งเดิม หน่วยความจำถาวร Intel® Optane™ มอบความสมบูรณ์แบบให้กับหน่วยความจำ DRAM ด้วยการใช้ความจุของหน่วยความจำระบบในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อเร่งความเร็วในการให้บริการและการประมวลผลเวิร์กโหลดในราคาที่จับต้องได้

โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2 ใหม่ที่มีหน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™ ^{3 4}

การปรับปรุงให้ดีขึ้นตั้งแต่พื้นฐาน

• ประสิทธิภาพต่อคอร์สูงกว่า: สูงสุด 56 คอร์ (9200 ซีรีส์) และสูงสุด 28 คอร์ (8200 ซีรีส์) ที่ให้ความสามารถในการปรับขนาดและประสิทธิภาพสูงกับเวิร์กโหลดที่ใช้การประมวลผลสูงในการใช้งานเครือข่าย อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และการประมวลผล
• ความจุ/แบนด์วิดธ์หน่วยความจำมากขึ้น: รองรับหน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™ ที่รองรับความจุของหน่วยความจำระบบสูงสุดถึง 36 TB เมื่อใช้งานร่วมกับ DRAM แบบดั้งเดิม ความจุและแบนด์วิธของหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ รองรับช่องหน่วยความจำหกช่อง และหน่วยความจำ DDR4 สูงสุด 4 TB ต่อซ็อคเก็ต ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 2933 MT/s (1 DPC)
• Expanded I/O: แบนด์วิดธ์และอัตราความเร็วของ PCIe* 3.0 48 เลนเพื่อเวิร์กโหลดที่ใช้ I/O สูง
• Intel® Ultra Path Interconnect (Intel® UPI): Intel® Ultra Path Interconnect (Intel® UPI) (9200 ซีรีส์) สี่ช่อง และ Intel® Ultra Path Interconnect (Intel® UPI) (8200 ซีรีส์) สูงสุดสามช่อง ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดของแพลตฟอร์มได้มากถึงสองซ็อคเก็ต (9200 ซีรีส์) และสูงสุดแปดซ็อคเก็ต (8200 ซีรีส์) Intel® Ultra Path Interconnect (Intel® UPI) ให้สมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างประสิทธิภาพด้านพลังงานและอัตราความเร็วที่เพิ่มขึ้น
• Intel® Deep Learning Boost (Intel® DL Boost) พร้อม VNNI:  Intel® Deep Learning Boost (Intel® DL Boost) ใหม่ที่มาพร้อมกับ Vector Neural Network Instruction (VNNI) ให้ประสิทธิภาพการอนุมานของปัญญาประดิษฐ์ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้นถึง 30 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2 ให้ความพร้อมของ AI ในศูนย์ข้อมูลได้อย่างทั่วถึง
• Intel® Infrastructure Management Technologies (Intel® IMT): เทคโนโลยีการจัดการโครงสร้างพื้นฐานของ Intel® (Intel® IMT) ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการจัดการทรัพยากร จะผสานความสามารถต่างๆ ของ Intel ที่รองรับการตรวจจับ การรายงาน และการกำหนดค่าในระดับแพลตฟอร์ม การติดตาม การจัดการ และการควบคุมทรัพยากรที่เสริมประสิทธิภาพด้วยฮาร์ดแวร์นี้สามารถช่วยทำให้ได้ประสิทธิภาพและการใช้งานทรัพยากรของศูนย์ข้อมูลที่ดีขึ้นได้
• Intel® Security Libraries^◊ for Data Center (Intel® SecL - DC): Intel® SecL-DC เป็นชุดส่วนประกอบและไลบรารีของซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ใช้งานคุณสมบัติด้านการรักษาความปลอดภัยด้วยฮาร์ดแวร์ของ Intel ได้ ไลบรารีแบบโอเพ่นซอร์สเป็นแบบแยกย่อยและมีอินเทอร์เฟซที่สอดคล้องกัน ลูกค้าและผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาโซลูชั่นที่ช่วยในการรักษาความปลอดภัยแพลตฟอร์มและการปกป้องข้อมูลโดยใช้คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่เสริมประสิทธิภาพด้วยฮาร์ดแวร์ของ Intel ที่ระดับคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย
• Intel® Advanced Vector Extensions 512 (Intel® AVX-512): ด้วยค่า FLOPS ต่อรอบนาฬิกาเป็นสองเท่าของ Intel® Advanced Vector Extensions 2 (Intel® AVX2) เจนเนอเรชั่นก่อนหน้า Intel® AVX-512 ยกระดับประสิทธิภาพและอัตราความเร็วให้กับงานด้านการคำนวณสุดยากลำบากในแอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น การสร้างแบบจำลองและการจำลอง การวิเคราะห์ข้อมูลและการเรียนรู้ของเครื่อง การบีบอัดข้อมูล การแสดงผลข้อมูลด้วยภาพ และการสร้างเนื้อหาดิจิทัล
• การรักษาความปลอดภัย^◊ แบบไร้ช่องโหว่: การจำกัดประสิทธิภาพและโอเวอร์เฮดของการเข้ารหัสในการดำเนินการกับข้อมูลความปลอดภัยทั้งหมด

การผสานการทำงานอันล้ำสมัย

การผสานการทำงานกับแพลตฟอร์มให้การพัฒนาด้านประสิทธิภาพและความหน่วงทั้วทั้งโครงสร้างพื้นฐาน:

• Intel® QuickAssist Technology (Intel® QAT) แบบเบ็ดเสร็จ: การเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ด้วยชิปเซ็ตสำหรับเวิร์คโหลดการบีบอัดและการเข้ารหัสที่เพิ่มขึ้นเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่า พร้อมทั้งให้การป้องกันและการถ่ายโอนข้อมูลที่ดียิ่งขึ้นทั่วทั้งโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
• Intel® Ethernet แบบรวมที่มมมมี iWARP* RDMA* แบบปรับขยายได้: มีพอร์ตอีเธอร์เน็ตความเร็วสูงขนาด 10 Gbps สูงสุดถึง 4 พอร์ตเพื่อการส่งผ่านข้อมูลด้วยอัตราความเร็วสูง และเวิร์กโหลดที่มีความหน่วงแฝงต่ำ เหมาะสำหรับโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์, โซลูชัน NVM Express* Over Fabric และการย้ายของ Virtual Machine ผสานรวมลงในชิปเซ็ต

การสนับสนุนหน่วยความจำและอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลระดับชั้นนำในอุตสาหกรรม

นวัตกรรมการจัดเก็บข้อมูลสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาด้านประสิทธิภาพ และศักยภาพของเวิร์กโหลดที่ต้องใช้ข้อมูลปริมาณมากได้อย่างมาก

• การสนับสนุนหน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™: นวัตกรรมหน่วยความจำและอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสุดล้ำสมัยมาพร้อมกับศักยภาพสุดน่าทึ่งสำหรับโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่รวดเร็ว สามารถผสานเข้ากับ Intel® Optane™ DC SSD เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพด้านข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลที่ยอดเยี่ยม
• ปรับใช้งานอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นถัดไปได้อย่างมั่นใจด้วย Intel® Volume Management Device (Intel® VMD): เปลี่ยน NVMe SSD จากบัส PCIe ได้โดยไม่ต้องปิดระบบ ในขณะที่การจัดการ LED ที่มีมาตรฐานช่วยให้คุณสามารถระบุสถานะ SSD ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ความคล้ายคลึงกันนี้จะนำคุณสมบัติด้านความน่าเชื่อถือ ความพร้อมใช้งาน และความสามารถในการซ่อมบำรุง (RAS) ระดับองค์กรมาสู่ NVMe* SSD ทำให้คุณสามารถปรับใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นถัดไปได้อย่างมั่นใจ
• Intel® Intelligent Storage Acceleration Library (Intel® ISA-L): ช่วยปรับปรุงการดำเนินการจัดเก็บข้อมูล เช่น การเข้ารหัส เพื่อประสิทธิภาพสุงสุดของการจัดเก็บข้อมูล

ข้อเสนอที่คุณจะชื่นชอบสำหรับประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาดได้ที่ดีกว่า

Intel ขอนำเสนอผลงานซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่จะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับโปรเซสเซอร์ใหม่นี้

• ผลิตภัณฑ์ Intel® Ethernet ซีรี่ส์ 800 รองรับความเร็วพอร์ตได้สูงสุด 100 GbE ด้วย Application Device Queues (ADQ) ซึ่งจะปรับปรุงเวิร์คโหลดที่มีความไวต่อความหน่วงแฝงให้สื่อสารข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น ชุดพัฒนา Data Plane (DPDK) ได้รับการรองรับในผลิตภัณฑ์ Intel® Ethernet ซีรี่ส์ 800 สำหรับการเร่งความเร็ว NFV การส่งต่อแพคเก็ตขั้นสูง และการประมวลผลแพคเก็ตที่มีประสิทธิภาพสูง
  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ intel.com/ethernet
• Intel® FPGA ให้การเร่งความเร็วที่ยืดหยุ่นและตั้งโปรแกรมได้สำหรับแอปพลิเคชันที่มีความหน่วงแฝงต่ำ เช่น ระบบสวิตช์เสมือน บริการเครือข่าย การวิเคราะห์ข้อมูล และ AI
  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ intel.com/fpga
• เครื่องมือและไลบรารีซอฟต์แวร์ที่หลากหลายสำหรับการประมวลผลทั่วไปและการประมวลผลขั้นสูงแบบคู่ขนานจะช่วยให้นักพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพแอปพลิเคชันสำหรับสถาปัตยกรรม Intel®
  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ software.intel.com

เพิ่มความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม
ความน่าเชื่อถือรวมทั้งการปกป้องข้อมูลและแพลตฟอร์มเป็นข้อกังวลหลักสำหรับองค์กรที่กำลังเผชิญกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นและการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัว ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ ช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้สูงด้วยการปกป้องข้อมูล ความยืดหยุ่น และเวลาทำงานของแพลตฟอร์ม

เพิ่มการปกป้องข้อมูลและความน่าเชื่อถือในทุกเวิร์คโหลด

• เทคโนโลยี Intel® Run Sure ที่เหนือกว่าเดิม: การปรับปรุงใหม่จะส่งมอบความน่าเชื่อถือ ความพร้อมใช้งาน และความสามารถในการซ่อมบำรุง (RAS) ขั้นสูง ตลอดจนเวลาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์สำหรับเวิร์คโหลดที่สำคัญที่สุดของบริษัท ความสามารถที่สนับสนุนโดยฮาร์ดแวร์ ซึ่งรวมถึง MCA ที่ปรับปรุงแล้วและการกู้คืนตลอดจนการแก้ไขข้อผิดพลาดแบบหลายอุปกรณ์ที่ปรับได้ จะวินิจฉัยและกู้คืนจากความผิดพลาดร้ายแรงครั้งก่อน และยังช่วยรับรองความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลภายในระบบย่อยหน่วยความจำ
• Intel® Key Protection Technology (Intel® KPT) พร้อม Intel® QuickAssist Technology (Intel® QAT) ที่ให้มาในตัว และ Intel® Platform Trust Technology (Intel® PTT): มอบการรักษาความปลอดภัยแพลตฟอร์มที่เสริมประสิทธิภาพด้วยฮาร์ดแวร์^◊ โดยให้คีย์และการป้องกันข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในขณะหยุดทำงาน ขณะใช้งาน และขณะถ่ายโอน
• Intel® Trusted Execution Technology (Intel® TXT) พร้อม One-Touch Activation: ความปลอดภัยของแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้น^◊ ในขณะที่ให้การปรับใช้ที่ง่ายและปรับขนาดได้สำหรับ Intel® Trusted Execution Technology (Intel® TXT)

เมื่อเวิร์คโหลดที่มีข้อมูลจำนวนมากไหลผ่านศูนย์ข้อมูล คุณสมบัติที่มีการเสริมประสิทธิภาพด้วยฮาร์ดแวร์อย่างครอบคลุมนี้จะนำมาซึ่งกลไกการป้องกันระดับข้อมูลและระดับแพลตฟอร์มที่ดีขึ้นสำหรับบริการที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมขององค์กรและระบบคลาวด์^◊

การส่งมอบบริการแบบไดนามิกและมีประสิทธิภาพสูง
การมาบรรจบกันของการประมวลผล หน่วยความจำ เครือข่าย และประสิทธิภาพของระบบจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้น เมื่อรวมเข้ากับการปรับแต่งระบบนิเวศของซอฟต์แวร์ ทำให้ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับศูนย์ข้อมูลเสมือนจริงที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะจัดสรรทรัพยากรแบบไดนามิกด้วยตนเองทั้งภายในองค์กร ผ่านเครือข่าย และในคลาวด์สาธารณะ ตามความต้องการของเวิร์คโหลด

เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทรงพลังสำหรับศูนย์ข้อมูลที่คล่องตัว

คุณสมบัติของ Intel® Virtualization Technology (Intel® VT-x):

• การจำลองเสมือนแบบควบคุมการดำเนินการตามโหมด (MBE): มอบการปกป้องชั้นพิเศษจากการโจมตีของมัลแวร์ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงโดยเปิดใช้งานไฮเปอร์ไวเซอร์เพื่อตรวจสอบและบังคับใช้ความถูกต้องสมบูรณ์ของโค้ดระดับเคอร์เนลได้อย่างน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
• การจำลองเสมือนแบบ Timestamp Counter Scaling (TSC): ส่งมอบการเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์คโหลดในสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบไฮบริดโดยอนุญาตให้เครื่องเสมือนเคลื่อนที่ข้าม CPU ที่ทำงานที่ความถี่พื้นฐานต่างกัน

Intel® Node Manager (Intel® NM) 4.0: ช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถจัดการและปรับแต่งพลังงาน การระบายความร้อน และทรัพยากรการประมวลผลในศูนย์ข้อมูลได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในขณะที่ลดโอกาสการเกิดความร้อนที่สูงเกินไป

แพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเสถียรสำหรับองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

องค์กรต่างๆ ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้ประโยชน์สตรีมข้อมูลที่มีเพื่อดึงเอาข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างแนวคิดริเริ่มของธุรกิจออกมาอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชันเก่าและใหม่ในองค์กร รวมถึงการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ การเรียนรู้ของเครื่อง และความสามารถในการประมวลผลที่สูง จำเป็นต้องอาศัยความสามารถในการประมวลผลใหม่ที่ยอดเยี่ยมและปริมาณการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากแบบแบ่งชั้น ศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยกำลังได้รับการออกแบบโดยใช้วิธีการแบบผสมผสานและแบบองค์รวมที่สามารถมอบบริการใหม่ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นและลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของสินทรัพทย์โครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบัน ในขณะที่ยกระดับศูนย์ข้อมูลแบบไฮบริดที่กำกับควบคุมได้ด้วยตนเองได้อย่างราบรื่นและปรับขยายได้สูงสุด

กระนั้นองค์กรต่างๆ ที่ใช้งานเวิร์คโหลดทางธุรกิจตั้งแต่พื้นฐาน เช่น OLTP และโครงสร้างพื้นฐานทางเว็บ ก็พยายามที่จะลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

ตระกูลโปรเซสเซอร์ ntel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ นำเสนอความสามารถระดับองค์กรยุคใหม่ให้กับธุรกิจต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มที่พร้อมสำหรับอนาคตที่รองรับยุคที่ขับเคลื่อนข้อมูลบนคลาวด์แบบไฮบริด พร้อมช่วยปรับปรุงการดำเนินงานประจำวันให้ดีขึ้น แพลตฟอร์มอเนกประสงค์ยกระดับประสิทธิภาพการประมวลผลใหม่ พร้อมกับหน่วยความจำและความก้าวหน้าของ I/O สำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้พลังงานสูงและไวต่อความหน่วง เมื่อรวมกับหน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่และ Intel® QLC 3D NAND SSD ตระกูลศูนย์ข้อมูล เพื่อจัดการข้อมูลจำนวนมากครอบคลุมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล การแคช และหน่วยความจำ ทำให้แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นบนตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ พร้อมที่จะจัดการกับความต้องการที่หนักหน่วงในยุคแห่งข้อมูลและระบบคลาวด์

ด้วยตัวเลือกแพคเกจที่ปรับขนาดได้เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเวิร์คโหลดที่หลากหลาย ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ จึงเป็นอุปกรณ์เปี่ยมประสิทธิภาพที่ออกแบบมาสำหรับการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบเสมือนจริงที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่าย

โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2 ใหม่ที่มีหน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™

จุดเด่นสำหรับนวัตกรรมระดับองค์กร

• โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2
• หน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™
• Intel® Deep Learning Boost (Intel® DL Boost)
• Intel® Speed Select Technology (Intel® SST)
• Intel® Ethernet ซีรี่ส์ 800
• Intel® Optane™ DC SSD และ Intel® QLC 3D NAND SSD
• Intel® Infrastructure Management Technologies (Intel® IMT)

แพลตฟอร์มยุคใหม่ที่ปรับประสิทธิภาพให้รองรับระบบคลาวด์ เครือข่ายที่พร้อมใช้งาน 5G และเครือข่ายระบบเสมือนยุคใหม่

ยุค 5G ที่กำลังมาถึงจะทำให้เกิดระบบนิเวศและประเภทของผู้บริโภคและบริการขององค์กรใหม่ทั้งหมด พร้อมกับแอปพลิเคชันสื่อบนเครือข่ายไร้สายและแบบมีสาย การใช้นวัตกรรมที่มีข้อมูลจำนวนมากต่างๆ เหล่านี้ซึ่งขับเคลื่อนโดย Internet of Things (IoT) ใหม่ การประมวลผลภาพ และการวิเคราะห์ จะเป็นโอกาสสำคัญในอนาคตสำหรับผู้ให้บริการการสื่อสาร (CommSP) ในการเพิ่มรายได้

การเปลี่ยนจากโครงสร้างพื้นฐานฟังก์ชั่นคงที่ที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ไปเป็นเครือข่ายเปิดรุ่นใหม่เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการเตรียมพร้อมสำหรับโลกที่รองรับ 5G ระบบเครือข่ายที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมการจำลองเสมือนฟังก์ชั่นเครือข่าย (NFV) กำลังเปิดโอกาสในการให้บริการใหม่ๆ และประสิทธิภาพการดำเนินงานสำหรับผู้ให้บริการการสื่อสารและองค์กรต่างๆ การใช้เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานที่มีความยืดหยุ่นและปรับให้เหมาะสมและฟังก์ชั่นเครือข่ายเสมือนจริงที่มีการเตรียมการจะช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมใช้ในอนาคตสามารถส่งมอบบริการที่เป็นนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดาย

เครือข่ายการสื่อสารแบบกระจายดังกล่าวสามารถรองรับการขยายขีดความสามารถ ความคล่องตัว ความสามารถในการโปรแกรม และการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุดครอบคลุมปริมาณและความหลากหลายของภาระงานเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่แกนเครือข่ายไปจนถึงอุปกรณ์เครือข่าย

ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เป็นพื้นฐานสำหรับแพลตฟอร์มยุคใหม่ในการสร้างเครือข่ายระบบเสมือนที่รองรับระบบคลาวด์และพร้อมใช้งาน 5G ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่ปรับขนาดและปรับใช้งานได้อย่างง่ายดายเพื่อจัดการกับความต้องการของแอปพลิเคชันเกิดใหม่และการผสานรวมเวิร์คโหลดที่สำคัญ เช่น แอปพลิเคชันและบริการ การประมวลผลของส่วนของการควบคุม การประมวลผลแพ็กเก็ตประสิทธิภาพสูง และการประมวลผลสัญญาณ โปรเซสเซอร์ใหม่นี้เป็นรากฐานสำหรับเครือข่ายที่คล่องตัวซึ่งสามารถทำงานกับระบบคลาวด์แบบประหยัดได้ เป็นไปโดยอัตโนมัติและตอบสนองสูง และสนับสนุนการส่งมอบบริการที่รองรับ 5G ซึ่งเพิ่มขึ้นใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น

SKU “N” รุ่นใหม่ของโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2 สำหรับระบบเครือข่าย/NFV โดยเฉพาะ

จุดเด่นสำหรับนวัตกรรมของผู้ให้บริการการสื่อสาร

• SKU “N” ของโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2 สำหรับระบบเครือข่าย/NFV โดยเฉพาะ
• หน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™
• การเร่งความเร็วของการเข้ารหัสและการบีบอัดแบบใช้ฮาร์ดแวร์ที่มี Intel® QAT ในตัว
• Intel® Ethernet ซีรี่ส์ 800
• Intel® FPGA ให้คุณเพิ่มความอเนกประสงค์ในโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร
• Intel® Infrastructure Management Technologies (Intel® IMT)

ทรัพยากรเพิ่มเติมที่ปรับให้เหมาะสำหรับผู้ให้บริการการสื่อสาร
ชุดพัฒนาส่วนของข้อมูล (DPDK) แบบโอเพ่นซอร์สช่วยให้สามารถดำเนินการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพบนสถาปัตยกรรม Intel® DPDK ได้พิสูจน์ถึงความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตามจำนวนคอร์โปรเซสเซอร์และสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ทำให้เวิร์คโหลดอย่าง IPSec ของ Vector Packet Processing (VPP) ได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ นอกจากนี้ ไลบรารีเหล่านี้ยังมีกลไกที่ได้รับการปรับแต่งล่วงหน้าเพื่อให้ความสามารถของโปรเซสเซอร์ใหม่ (เช่น Intel® AVX-512 และการปรับปรุงหน่วยความจำและ I/O) สามารถใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการประมวลผลแพ็คเก็ตด้วยความพยายามในการพัฒนาที่น้อย

Intel ขอเสนอโครงการอย่าง Intel® Network Builders University ที่เหมาะสำหรับวิวัฒนาการของเครือข่ายในยุค 5G ด้วยคำแนะนำเกี่ยวกับโซลูชันและการฝึกอบรมจากโครงการเหล่านี้ ผู้ให้บริการการสื่อสารสามารถผลักดันโครงการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายของตนไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ

HPC ที่น่าทึ่ง และนวัตกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง

การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันถูกขับเคลื่อนโดยอัลกอริทึมใหม่ แหล่งที่มาใหม่และปริมาณข้อมูล ตลอดจนความก้าวหน้าด้านการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล นอกจากคลัสเตอร์ HPC จะได้รับประโยชน์จากปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณและความหลากหลายของข้อมูลแล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาเวิร์คโหลดการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง (HPDA) ซึ่งนำไปสู่การค้นพบที่ไม่น่าเชื่อและข้อมูลเชิงลึกสำหรับธุรกิจและความเข้าใจของมนุษย์ การเรียนรู้ของเครื่อง การเรียนรู้เชิงลึกและ AI ยกระดับความสามารถในการประมวลผลจำนวนมากด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล เพื่อผลักดันให้เกิดแอปพลิเคชันใหม่ เช่น ระบบอัตโนมัติและรถที่ขับเคลื่อนได้เอง

ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ขอเสนอแพลตฟอร์มทั่วไปสำหรับ AI ที่มีปริมาณงานสูงสำหรับทั้งการอนุมานและการฝึกอบรม โดยมีปริมาณงานสำหรับการอนุมานที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 30 เท่า เมื่อใช้ซีรีส์ 9200 และเพิ่มขึ้นสูงสุด 14 เท่า เมื่อใช้ซีรีส์ 8200 โดยเปรียบเทียบกับโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2017

HPC ไม่ได้เป็นเพียงแค่โดเมนของสถาบันวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่อีกต่อไป องค์กรต่างๆ กำลังใช้วงจรการประมวลผลแบบ HPC PCมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคลัสเตอร์ HPC ที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่ง อยู่ในบริษัทน้ำมันและบริษัทก๊าซเอกชน การวิจัยด้านการแพทย์เฉพาะบุคคลนั้นจะใช้ HPC ​​​สำหรับแผนการรักษาที่ให้ความสำคัญอย่างสูง แพลตฟอร์ม HPCรุ่นใหม่ๆ ที่มีการติดตั้งกำลังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่แปรสภาพเพื่อการใช้งานที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิมซึ่งรวมถึงการจำลอง AI การสร้างภาพ และการวิเคราะห์ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว

แพลตฟอร์ม HPC ตั้งแต่คลัสเตอร์ที่เล็กที่สุดไปจนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด ต้องการความสมดุลระหว่างการประมวลผล หน่วยความจำ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และเครือข่าย ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งมอบและเปิดใช้งานความสมดุลดังกล่าวพร้อมความสามารถในการปรับขยายขนาดใหญ่ถึงหลักหมื่นคอร์ ตั้งแต่จำนวนคอร์และสถาปัตยกรรมแบบตาข่ายที่ได้รับการปรับปรุงไปจนถึงเทคโนโลยีแบบบูรณาการใหม่ๆ และการรองรับหน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™ และอุปกรณ์เก็บข้อมูล ช่วยให้ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® ที่ปรับขนาดได้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของ HPC ในการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการประมวลผล หน่วยความจำ หน่วยจัดเก็บข้อมูล และเครือข่ายโดยไม่ทำให้เกิดปัญหาคอขวดที่จุดตัดกันของทรัพยากร

การผนึกรวม Cornelis Networks ซึ่งเป็นเฟบริกประสิทธิภาพสูงแบบครบวงจร เข้าไว้ในตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ ทำให้ได้ทั้งประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นและการปรับขยายสู่คลัสเตอร์การประมวลผลแบบกระจายคู่ขนาน การขยายขนาดเชิงเส้นใกล้เคียงสูงสุด 32 โหนดช่วยให้สามารถสร้างโซลูชัน HPC ขนาดใหญ่ที่ไม่ได้เชื่อมต่อระหว่างกันได้ ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® ที่ปรับขนาดได้ และ Cornelis Networks ช่วยให้สามารถค้นพบสิ่งใหม่ๆ และแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นสำหรับเวิร์คโหลดขั้นสูงแบบคู่ขนานในศูนย์ข้อมูลหลายแห่ง

โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2 ใหม่สำหรับ HPC

• โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Platinum 9200
• หน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™
• Intel® Ultra Path Interconnect (Intel® UPI)
• Intel® Deep Learning Boost (Intel® DL Boost)
• Intel® Advanced Vector Extensions 512 (Intel® AVX-512)
• อินเทอร์เฟซ Cornelis Networks Host Fabric
• ไดรฟ์ Solid-State Intel® Optane™ DC

เทคโนโลยีเพิ่มเติมสำหรับ HPC, HPDA และ AI
เครื่องมือซอฟต์แวร์ที่ให้ผลผลิตสูง ไลบรารีที่ปรับให้เหมาะสม หน่วยการสร้างพื้นฐาน และกรอบการทำงานที่ยืดหยุ่นสำหรับการประมวลผลทั่วไปและการประมวลผลขั้นสูงแบบขนานจะช่วยให้เวิร์กโฟลว์ง่ายขึ้นและช่วยนักพัฒนาในการสร้างโค้ดที่เพิ่มขีดความสามารถของ IA สำหรับ HPC และ AI

การปรับให้เหมาะสมสำหรับกรอบการเรียนรู้เชิงลึกที่เป็นที่นิยมสำหรับ IA ซึ่งรวมถึง Caffe และ TensorFlow* ขอเสนอมูลค่าและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล

Intel® Parallel Studio XE 2017 มีไลบรารีที่ทรงประสิทธิภาพ เช่น ไลบรารี Intel® Math Kernel (Intel® MKL) สำหรับเครือข่าย Deep Neural ไลบรารี Intel® Math Kernel สำหรับเครือข่าย Deep Neural (Intel® MKL-DNN) เพื่อเร่งเฟรมเวิร์คการเรียนรู้เชิงลึกบน IA และ ไลบรารี Intel® Data Analytics Acceleration (Intel® DAAL) เพื่อเร่งการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

ทรัพยากรที่ปรับให้เหมาะกับเวิร์คโหลด HPC
เพื่อดำเนินการค้นหาขั้นสูงต่อไปผ่านการประมวลผลระดับ HPC เพื่อเข้าสู่ยุค Exascale ชุมชนนักพัฒนา Intel® Modern Code Developer ให้นักพัฒนาและนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลสามารถเข้าถึงการประชุมปรับปรุงด้านเทคนิคให้ทันสมัย เช่น เวกเตอไรเซชัน หน่วยความจำและโครงร่างข้อมูล การเขียนโปรแกรมหลายเธรดและมัลติโหนด ในแบบตัวต่อตัวและทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย

ภาพรวมโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชัน 2

ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้

• คอร์ประมวลผล Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ สูงสุด 56 คอร์ต่อโปรเซสเซอร์
  โปรเซสเซอร์สองตัวต่อแพลตฟอร์ม 2U
  (ระบบเซิร์ฟเวอร์ Intel® S9200WK Data Center Block)
• 12 ช่องหน่วยความจำต่อโปรเซสเซอร์, 24 ช่องหน่วยความจำต่อโหนด
• นำเสนอคำแนะนำของ Intel® Deep Learning Boost (Intel® DL Boost) ใหม่สำหรับการเร่งความเร็วการอนุมาน AI และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
• แพ็คเกจแบบ Multichip ที่ปรับปรุงให้เหมาะสำหรับความหนาแน่นและประสิทธิภาพ

โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 2

การกำหนดหมายเลข SKU
หมายเลขโปรเซสเซอร์สำหรับตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ จะใช้รูปแบบตัวอักษรและตัวเลขตามประสิทธิภาพ คุณลักษณะ เจนเนอเรชั่น และตัวเลือกของโปรเซสเซอร์ ซึ่งจะอยู่หลังแบรนด์และระดับของโปรเซสเซอร์