แหล่งข้อมูลการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ CPU สำหรับการเล่นเกม

จุดเด่น:

  • การปรับเพิ่มประสิทธิภาพ CPU

  • Intel® Extreme Tuning Utility (Intel® XTU)

  • เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost

author-image

โดย

CPU ที่เร็วกว่าหมายถึงการเล่นเกมที่ราบรื่นกว่า ซึ่งสามารถนำไปสู่การเพิ่ม FPS ในนาม AAA ล่าสุด การทำงานหลายอย่างได้ดีขึ้นในขณะเรียกใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการสตรีม หรือการถอดรหัสวิดีโอได้รวดเร็วขึ้น แต่คุณจะทำการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ CPU สำหรับการเล่นเกมอย่างไร

เครื่องมือปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ CPU ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้ อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและการทดสอบอัตโนมัติ จะช่วยให้คุณเรียกใช้โปรเซสเซอร์ที่มีอยู่ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น อ่านต่อเพื่อดูว่าสิ่งใดจะทำงานได้ดีกับระบบของคุณ

Intel® Extreme Tuning Utility (Intel® XTU)

Intel® Extreme Tuning Utility (Intel® XTU) ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้กำหนดค่าและทดสอบการโอเวอร์คล็อก เป็นซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพ CPU ที่รวบรวมเกณฑ์มาตรฐาน การทดสอบภาวะวิกฤติ และการตรวจสอบระบบด้วยกราฟเส้นแนวโน้มตามเวลาจริง ซึ่งใช้งานได้กับ CPU Intel® แบบปลดล็อคที่มีอักษร "K" กำกับ ย้อนไปจนถึงรุ่นเจนเนอเรชั่น 3 รวมถึงโปรเซสเซอร์สมรรถนะสูงจากตระกูล Intel® Core™ X-ซีรีส์

Intel® Extreme Tuning Utility มอบการเข้าถึงอย่างง่ายให้กับการโอเวอร์คล็อกพื้นฐานด้วย "ปุ่มหมุนปรับค่า" ซึ่งควบคุมความเร็ว CPU (อย่างเช่น สัดส่วนโปรเซสเซอร์คอร์ และ สัดส่วนโปรเซสเซอร์แคช) ทำให้ทำการโอเวอร์คล็อกได้ง่ายกว่า Intel® Performance Maximizer

เครื่องมือเกณฑ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาด้วยสามารถใช้เพื่อเปรียบเทียบความเร็ว CPU ก่อนและหลังการโอเวอร์คล็อกได้ จากนั้นจึงตรวจสอบคะแนนเทียบกับนักโอเวอร์คล็อกทางออนไลน์ การตั้งค่าอื่นๆ โดยผู้ใช้สามารถนำเข้าและนำมาใช้จากแท็บ "แฟ้มประวัติ"

การทดสอบความเครียด CPU ที่ติดตั้งมาด้วยจะทำให้ผู้ใช้ตรวจสอบความเสถียรและอุณหภูมิระบบด้วยการตั้งค่าโอเวอร์คล็อกของผู้ใช้เองได้ ไม่ว่าจะมีการตั้งค่าการโอเวอร์คล็อกเองใน Intel® XTU หรือ สภาพแวดล้อม BIOS การทดสอบภาวะวิกฤตของ Intel® XTU นั้นให้เวิร์กโหลดอย่างมหาศาล อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้งานที่นี

เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost

เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost เป็นเครื่องมือปรับแต่ง CPU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพซึ่งถูกเปิดใช้งานอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งหรือกำหนดค่าใดๆ เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost 2.0 มีอยู่ใน CPU Intel® จำนวนมาก ต่างจาก Intel® XTU ไม่จำเป็นต้องปลดล็อกโปรเซสเซอร์เพื่อทำงาน

เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost 2.0 เพิ่มความเร็ว CPU ภายใต้เวิร์กโหลดที่หนักได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการเพิ่มความเร็วนาฬิกาของ CPU ชั่วคราวเกินกว่าความถี่ในการทำงานปกติไปถึงความถี่เทอร์โบสูงสุด (ตัวอย่างเช่น 5GHz สำหรับ โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i9-10900K) เพื่อจัดการความต้องการของซอฟต์แวร์ที่เน้นความสามารถของ CPU

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost ไม่ได้เพิ่มความเร็วนาฬิกาของคุณไปที่ความถี่เทอร์โบสูงสุดเสมอไป อุณหภูมิของ CPU การใช้พลังงาน และจำนวนคอร์ที่ถูกใช้งานอยู่ สามารถมีผลต่อความเร็วที่ปลอดภัยสูงสุดของโปรเซสเซอร์ของคุณได้เช่นกัน

ในขณะที่ CPU Intel® ส่วนใหญ่ใช้ เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost 2.0 แต่ยังมีเทคโนโลยี Intel® Turbo Boost Max 3.0 ปรากฏในโปรเซสเซอร์บางรุ่นจากตระกูล Intel® Core™ X-ซีรีส์ 3.0 สร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับ 2.0 ด้วยการเร่งความเร็วคอร์ที่เร็วที่สุดของ CPU และส่งเวิร์กโหลดที่วิกฤติให้กับคอร์นั้นโดยตรง

ฉันจะใช้ซอฟต์แวร์การปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ CPU อย่างไร

CPU Intel® ที่ถูกปลดล็อคถูกออกแบบมาสำหรับการโอเวอร์คล็อก และโปรแกรมการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ CPU ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายอย่าง Intel® Extreme Tuning Utility ช่วยให้ CPU เหล่านั้นมีศักยภาพสูงสุดได้

อย่างไรก็ตาม โปรแกรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นหนทางเดียวในการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การตรวจดูให้แน่ใจว่าระบบของคุณเย็นลงแล้วและไม่มีจุดคอขวดเป็นวิธีที่เยี่ยมยอดในการทำให้แน่ใจว่าคุณจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากพีซีของคุณ