การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์คืออะไร
การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ คือ การดำเนินการจัดเก็บข้อมูลบนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ส่วนตัว สาธารณะหรือไฮบริด ระบบคลาวด์ส่วนตัว หมายถึง ฮาร์ดแวร์ในสถานที่ที่จัดการโดยผู้ใช้หรือธุรกิจ เพื่อผลประโยชน์ของผู้ใช้หรือของธุรกิจเอง ในขณะที่ระบบคลาวด์สาธารณะ หมายถึง ผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ (CSPs) เช่น Amazon Web Services, Google Cloud และ Microsoft Azure ผู้ให้บริการคลาวด์เหล่านี้ทุกรายมีบริการการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เป็นบริการ (STaaS) ในรูปแบบไฮบริดหรือมัลติคลาวด์ ผู้ใช้หรือธุรกิจจะรวมฟังก์ชั่นระบบคลาวด์ในสถานที่เข้ากับข้อเสนอ STaaS ของผู้ให้บริการคลาวด์ ในการใช้งานแบบไฮบริด คุณต้องการโครงสร้างพื้นฐานส่วนตัวและสาธารณะที่ทำงานเข้ากันได้ เพื่อที่จะสามารถโอนข้อมูลจากโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลหนึ่งไปยังอีกโซลูชันหนึ่งได้ง่าย
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจขนาดเล็ก การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ อาจหมายถึง การใช้แอปต่าง ๆ เช่น Microsoft OneDrive หรือ Dropbox เพื่อจัดเก็บไฟล์ออนไลน์ และเข้าถึงไฟล์ได้จากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ใน การจัดเก็บข้อมูลในธุรกิจขนาดเล็กและโฮมออฟฟิศ ผู้ใช้อาจลงทุนซื้อ Network Attached Storage (NAS) หรือบางครั้งเรียกว่า Media Server ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวสำหรับจัดเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ โดยทั่วไป ฮาร์ดแวร์ NAS ประกอบด้วยฮาร์ดไดรฟ์หลายตัว ซึ่งอาจรวมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เพื่อประหยัดต้นทุน หรือไดรฟ์ Solid-State (SSD) เพื่อการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น และ CPU ประหยัดพลังงาน เช่น โปรเซสเซอร์ Intel® Celeron®
ประโยชน์ของการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์
การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เป็นที่ดึงดูดสำหรับธุรกิจ เนื่องจากการเช่าทรัพยากรระบบคลาวด์สาธารณะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อย่างไรก็ดี การจัดเก็บข้อมูลบนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ส่วนตัว มาพร้อมกับความคุ้มค่าและประโยชน์ด้านอื่น ๆ บางธุรกิจเผชิญกับข้อกังวลด้านกฎระเบียบหรือความเป็นส่วนตัวที่ส่งผลต่อการเลือกวิธีการจัดเก็บข้อมูล และในกรณีนี้ โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ส่วนตัวให้การควบคุมที่ดีกว่าและตอบสนองความต้องการดังกล่าว สำหรับธุรกิจและผู้ใช้ทั่วไป การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ยังมีข้อดีในการเคลื่อนย้ายข้อมูลด้วย คุณสามารถเข้าถึง อัปโหลดและดาวน์โหลดไฟล์จากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใด ๆ ได้จากทุกที่
ประเภทของการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์
การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก การเข้าใจความแตกต่างของแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลเมื่อวางแผนโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ส่วนตัว หรือค้นหาข้อเสนอที่แตกต่างจากผู้ให้บริการ STaaS
- การจัดเก็บข้อมูลแบบบล็อก จะแบ่งข้อมูลออกเป็นบล็อกต่าง ๆ และกระจายข้อมูลในสภาพแวดล้อมการจัดเก็บข้อมูล โดยคำนึงถึงตำแหน่งจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด การจัดเก็บข้อมูลประเภทนี้ใช้ทรัพยากรที่แยกออกจากฮาร์ดแวร์ จึงทำให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมคลาวด์ เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลประเภทนี้ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับระบบข้อมูลที่สำคัญและการดำเนินธุรกิจ ในด้านต้นทุน การจัดเก็บข้อมูลประเภทนี้มีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ
- การจัดเก็บไฟล์ จะจัดระบบข้อมูลเป็นลำดับชั้นจากหลายไดเรกทอรีพร้อมความสามารถในการอ่านและเขียน ซึ่งเป็นวิธีการที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่คุ้นเคยในการใช้งานพีซีผ่านแอปต่าง ๆ เช่น OneDrive หรือ NAS สำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือโฮมออฟฟิศ ลักษณะทั่วไปของการจัดเก็บไฟล์ คือ ความสามารถในการสร้าง อ่าน แชร์และลบไฟล์ผ่านอินเทอร์เฟชที่ง่าย ข้อมูลจะถูกเก็บตามลำดับทำให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่าย ข้อด้อยของวิธีนี้คือ เมื่อคุณเพิ่มข้อมูลมากขึ้น ลำดับชั้นจะซับซ้อนมากขึ้นและจัดการได้ยากขึ้น การจัดเก็บไฟล์เหมาะสำหรับการใช้งานที่คุณต้องการแชร์ข้อมูลหรือต้องการให้ผู้ใช้อื่น ๆ เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
- การจัดเก็บข้อมูลออบเจ็กต์ เป็นวิธีจัดเก็บข้อมูลที่ประหยัดต้นทุนที่สุด ในการจัดเก็บข้อมูลออบเจ็กต์ ข้อมูลจะถูกแปลงเป็นออบเจ็กต์และถูกกำหนดแท็กเมตา เพื่อให้ระบบจดจำและเรียกดูได้เมื่อต้องการ อินเทอร์เฟซออบเจ็กต์ไม่ได้ถูกกำหนดอย่างชัดเจน แต่สามารถปรับขนาดได้ง่ายเนื่องจากคุณสามารถเพิ่มพูลการจัดเก็บข้อมูลได้โดยไม่จำกัด การจัดเก็บข้อมูลออบเจ็กต์เหมาะสำหรับข้อมูลที่ไม่มีการจัดระบบ เช่น ไฟล์มัลติมีเดียจำนวนมากหรือชุดข้อมูลขนาดใหญ่
การโอนย้ายข้อมูลบนระบบคลาวด์
การโอนย้ายข้อมูลบนระบบคลาวด์ หมายถึง กระบวนการย้ายเวิร์กโหลดและข้อมูลจากโครงสร้างพื้นฐานส่วนตัวไปยังผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ (CSP) และในทางกลับกัน นอกจากนี้ยังหมายถึงการย้ายเวิร์กโหลดและข้อมูลจากคลาวด์สาธารณะหนึ่งไปยังคลาวด์สาธารณะหนึ่งด้วย การโอนย้ายข้อมูลบนระบบคลาวด์มีสององค์ประกอบ: การย้ายข้อมูลที่ต้องใช้ในการประมวลผล และการย้ายตัวข้อมูลเอง ซึ่งการย้ายตัวข้อมูลเองโดยทั่วไปจะดำเนินการผ่านการจัดเก็บข้อมูลถาวรหรือสำรองข้อมูลบนคลาวด์
การจับคู่เวิร์กโหลดข้อมูล-ประมวลผลขึ้นอยู่กับเฟรมเวิร์กที่ธุรกิจใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เช่น ธุรกิจที่ใช้ VMware อย่างเดียวจะพึ่งพาเครื่องมือเหล่านั้นเมื่อย้ายข้อมูลเวิร์กโหลดข้อมูล-ประมวลผลไปยังผู้ให้บริการคลาวด์อื่น ขณะที่ธุรกิจที่ใช้ Kubernetes จะพึ่งพาห่วงโซ่เครื่องมือนั้น
ความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์
ในการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ โดยส่วนใหญ่ ความปลอดภัยจะขึ้นอยู่กับว่าใครได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล และประเภทการเข้าถึงที่ได้รับ (อ่าน เขียน และอื่นๆ) อีกปัจจัยหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจต้องการจัดเก็บข้อมูลง่าย ๆ เช่น ข้อมูลเย็น หรือจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูลเป็นประจำ ที่เรียกว่าข้อมูลอุ่นหรือข้อมูลร้อน ความถี่ในการเข้าถึงข้อมูลเป็นปัจจัยที่ธุรกิจจำเป็นต้องคำนึงถึงในการป้องกันข้อมูลขณะถ่ายโอนและข้อมูลที่ใช้งาน ในกรณีข้างต้น ทั้งแคช CPU และหน่วยความจำระบบเป็นพื้นหน้าการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อทำงานร่วมกับผู้ให้บริการการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์สาธารณะ ธุรกิจควรต้องพิจารณาดังนี้:
- ใครในธุรกิจที่จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูล พวกเขาจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลบ่อยครั้งเท่าใด และใครควบคุมระดับสิทธิ์ของผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล
- สำหรับผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล พวกเขาสร้างลักษณะนิสัยความปลอดภัยของข้อมูลที่ดี โดยใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย และการตรวจสอบพิสูจน์ตัวตนสองระดับบนอุปกรณ์ของพวกเขาหรือไม่ สิ่งเหล่านี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ทั่วไป
- มีนโยบายหรือกฎระเบียบใด ๆ ที่บังคับใช้ข้อกำหนดเพิ่มเติมกับธุรกิจในการจัดเก็บข้อมูลและรักษาความเป็นส่วนตัวหรือไม่ เช่น Sarbanes-Oxley Act สำหรับสถาบันการเงิน หรือ HIPAA สำหรับผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพ
- ถ้าธุรกิจต้องการเพิ่มการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์มากขึ้น ความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงจะยุ่งยากมากขึ้นหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ธุรกิจหรือผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์จะช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร
การสำรองและกู้คืนข้อมูลบนคลาวด์
ธุรกิจที่กำลังมองหาการสำรองและกู้คืนบนคลาวด์จะพบกับตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลหลากหลายประเภทในระดับราคาที่แตกต่างกัน ราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับธุรกิจต้องการเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้รวดเร็วเพียงใด โดยทั่วไปการสำรองข้อมูลอุ่นหรือข้อมูลร้อนจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่มีรูปแบบการเข้าถึงที่รวดเร็วกว่าและตอบสนองได้ดีกว่า
ตัวอย่างการใช้งานสำหรับ NAS ในสภาพแวดล้อมธุรกิจขนาดเล็กหรือโฮมออฟฟิศ เช่น การสำรองและกู้คืนข้อมูลจากความเสียหาย เซิร์ฟเวอร์ NAS เป็นตัวเลือกที่มีราคาถูกที่สุดในการสำรองไฟล์ข้อมูลเย็น เพื่อให้ข้อมูลที่ซ้ำซ้อนในกรณีที่ระบบหลักล่ม แอปต่าง ๆ เช่น OneDrive และ Dropbox ตอบโจทย์วัตถุประสงค์เดียวกัน แต่แทนที่จะมีต้นทุนการลงทุนในฮาร์ดแวร์เริ่มต้น ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกรายเดือนที่สามารถปรับขยายได้ตามปริมาณข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บ
อีกทั้งยังสามารถรวมกับระดับการจัดเก็บข้อมูลที่แตกต่าง ขึ้นอยู่กับการเข้าถึงข้อมูลหรือข้อกำหนด SLA ซึ่งช่วยให้ธุรกิจที่ชาญฉลาดประหยัดต้นทุนจากผู้ให้บริการคลาวด์ได้สูงสุด การสำรองข้อมูลประจำวันสามารถกำหนดได้ในการจัดเก็บข้อมูลอุ่นหรือข้อมูลร้อน หากธุรกิจต้องการเรียกดูข้อมูลอย่างรวดเร็ว และบรรเทาการหยุดชะงักของผลผลิต ในกรณีการกู้คืนข้อมูลจากความเสียหาย สามารถใช้การสำรองข้อมูลของธุรกิจขนาดใหญ่หรือการเก็บบันทึกข้อมูลแบบถาวร ในการจัดเก็บข้อมูลเย็นได้
การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ด้วยผลิตภัณฑ์ Intel
Intel มีข้อเสนอเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ทั้งบนโครงสร้างพื้นฐานส่วนตัวและสาธารณะ
- Intel® Software Guard Extensions (Intel® SGX) มาพร้อมการเข้ารหัสโดยใช้ฮาร์ดแวร์เพื่อช่วยป้องกันข้อมูลในหน่วยความจำ
- หน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™ มีให้มาทั้งในหน่วยความจำแบบคงอยู่ Intel® Optane™ และ Intel® Optane™ DC SSDs ให้คุณเข้าถึงการจัดเก็บข้อมูลร้อนได้อย่างรวดเร็วเพื่อยกระดับการบริการที่สูงขึ้น
- Intel® Virtual RAID on CPU (Intel® VROC) พร้อมการเร่งแคชและบัฟเฟอร์การเขียนแบบคงอยู่ ทำให้ RAID ทำงานได้โดยไม่ต้องมีคอนโทรลเลอร์ RAID หรือชุดสำรองแบตเตอรี่ (BBU) แยกต่างหากช่วยลดความซับซ้อนและลดต้นทุนแพลตฟอร์ม
- Intel® SSDs สำหรับศูนย์ข้อมูล มาพร้อมอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าดับ ซึ่งจะสำรองข้อมูลขณะถ่ายโอนในกรณีที่ระบบไฟฟ้าขัดข้อง
- เทคโนโลยี NVMe ที่รวมเข้ากับ SSDs ศูนย์ข้อมูลขั้นสูง มาพร้อมอินเทอร์เฟซ PCIe ที่ช่วยวางตำแหน่งข้อมูลให้ใกล้กับ CPU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ I/O
- Storage Performance Development Kit (SPDK) วยเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์การจัดเก็บข้อมูลเพื่อให้ได้ I/O ที่สูงขึ้น เมื่อใช้เทคโนโลยี Intel® สำหรับโซลูชันเครือข่ายและการจัดเก็บข้อมูล
- Intel® Intelligent Storage Acceleration Library (Intel® ISA-L) มาพร้อมฟังก์ชั่นต่าง ๆ เช่น การแฮชเพื่อการถอดรหัสและการเข้ารหัสการลบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการจัดเก็บข้อมูลด้วยโปรเซสเซอร์ Intel®
ผู้วางระบบจะคุ้นเคยกับข้อเสนอเหล่านี้เมื่อพวกเขาช่วยธุรกิจออกแบบโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ส่วนตัว โดยทั่วไป ผู้ให้บริการคลาวด์จะพูดถึงความสามารถเหล่านี้ไว้ในเอกสารการตลาด แต่อาจไม่เปิดเผยส่วนประกอบหรือเทคโนโลยีที่เฉพาะเจาะจงที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขา การที่คุณรับรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สนับสนุนโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า คุณจะหาข้อเสนอที่เหมาะกับเวิร์กโหลดมากที่สุด และมีต้นทุนที่ดีที่สุดได้อย่างไร
โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ STaaS ของคลาวด์สาธารณะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่หลีกเลี่ยง CapEx ที่สูงในฮาร์ดแวร์ใหม่ ขณะที่การลงทุนในคลาวด์ส่วนตัวให้การควบคุมที่ดีกว่าและตอบสนองการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ การแบ่งตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลของคุณระหว่างข้อมูลร้อน ข้อมูลอุ่นและข้อมูลเย็น จะช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น ตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์บางอย่างอาจมีราคาสูงกว่า ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บบ่อยครั้งเท่าใด และคุณต้องการเข้าถึงอย่างรวดเร็วเท่าใด การเลือกฮาร์ดแวร์หรือบริการที่เหมาะสมส่งผลต่อค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลระบบอย่างมาก โดยสามารถช่วยเพิ่มทรัพยากรให้กับโครงการอื่น ๆ และการเติบโตอื่น ๆ ได้มากขึ้น