รับรู้ความจำเป็นสำหรับเครือข่าย 5G ส่วนตัว
เครือข่ายส่วนตัวหมายถึงโซลูชั่นการเชื่อมต่อไร้สายที่เป็นเจ้าของแบบส่วนตัว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในโครงสร้างพื้นฐาน virtualized Radio Access Network (vRAN) แบบไร้สายที่รองรับ AI, การสร้างข้อมูล, การประมวลผล, การวิเคราะห์ และการสื่อสารที่ Edge เครือข่ายส่วนตัวใช้เทคโนโลยีเซลลูลาร์ในการมอบอัตราความเร็ว ความน่าเชื่อถือ และความครอบคลุมที่มากกว่า Wi-Fi และมีไว้เพื่อเสริม ไม่ใช่การแทนที่ Wi-Fi แบบเดิม ๆ
หลักเกณฑ์หลักสองประการที่แสดงถึงความจำเป็นของเครือข่ายส่วนตัวประกอบด้วย:
-
ความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่น โดยเฉพาะเมื่อองค์กรต้องการจัดการกับผู้ใช้และอุปกรณ์ใหม่หลายร้อยหรือหลายพัน พิจารณาถึงสภาพแวดล้อมของสนามกีฬาที่มีผู้ชมหลายพันหรือการใช้อุปกรณ์ Edge ร่วมกัน รวมไปถึงการแพร่ภาพการแข่งขันแบบสด ๆ ในสนามและคอมพิวเตอร์วิชั่นที่ใช้ AI ที่ช่วยด้านการจัดการเกี่ยวกับการจราจรภายนอกสนาม
อ่านแนวทางที่เครือข่าย 5G ส่วนตัวของ Intel มอบประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับการแพร่ภ่พการแข่งขันกีฬาทั่วโลกที่ความล่าช้าที่น้อยกว่า 200ms -
สภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก เช่น ภายนอกอาคาร โกดังสินค้าหรือพื้นที่ปฏิบัติงานในโรงงาน หรือทุกแห่งที่การเชื่อมต่อแบบมีสายนั้นทำได้ยากลำบาก ไม่สามารถทำได้จริง และมีค่าใช้จ่ายสูงมาก พิจารณาถึงความจำเป็นในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทำการเพาะปลูกอัตโนมัติในพื้นที่ชนบทหรืออุปกรณ์และบุคลากรในแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางมหาสมุทร
อ่านแนวทางที่ Intel และ Blue White Robotics เอาชนะปัญหาด้านการเชื่อมต่อในพื้นที่ชนบทเพื่อปรับใช้การทำการเพาะปลูกอัตโนมัติ
ธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ในด้านการจัดการด้านความบันเทิงและสถานที่ สาธารณูปโภค ภาคส่วนด้านพลังงาน โรงงานหรือโกดังสินค้าอุตสาหกรรม สนามบิน ท่าเรือ และฮับการขนส่งและลอจิสติกส์อื่น ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายส่วนตัวเพื่อความต้องการด้านการเชื่อมต่อของได้อย่างเต็มที่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของเครือข่าย 5G ส่วนตัว
เครือข่าย 5G ส่วนตัวจะไม่ลบล้างหรือแทนที่ขีดความสามารถด้านสัญญาณวิทยุหรือ Wi-Fi ที่มีอยู่ และโซลูชั่นระบบเครือข่ายแบบส่วนตัวบางตัวจะไม่ได้เป็นแบบส่วนตัวโดยเฉพาะ แต่การปรับใช้เครือข่าย 5G ส่วนตัวส่วนใหญ่จะเป็นการปรับใช้แบบผสมผสานที่ให้ประโยชน์ทางธุรกิจเพิ่มเติมกับขีดความสามารถที่มีอยู่ ซึ่งช่วยทำให้สภาพแวดล้อมแบบ Brownfield และ Greenfield กลายเป็นแบบไร้สายเต็มรูปแบบ
ประโยชน์เพิ่มเติมของเครือข่าย 5G ส่วนตัวประกอบด้วย:
- ความครอบคลุม ที่ได้รับการปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม นอกจากจะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมภายนอกอาคารแล้ว ระบบเครือข่ายส่วนตัวยังมีความสามารถในการวางโหนด vRAN ไว้ในไซต์เพื่อให้ความครอบคลุมและความจุที่เหมาะกับความต้องการที่แน่นอนขององค์กรได้อีกด้วย อ่านแนวทางที่ Intel, Verizon และ Nokia ช่วยนำการเชื่อมต่อ 5G ไปสู่พื้นที่ 726 เอเคอร์ในท่าเรือที่คึกคักที่สุดของหมู่เกาะอังกฤษ
- การควบคุม พร้อมการรักษาความปลอดภัยที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับข้อมูลและเวิร์กโหลดที่สำคัญ ซึ่งรวมไปถึงความสามารถในการปรับแต่งนโยบายต่าง ๆ เกี่ยวกับแนวทางจัดเก็บ ส่ง และใช้ข้อมูลดังกล่าว องค์กรต่าง ๆ ยังได้ประโยชน์จากการควบคุมข้อมูลและการรับรองต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการรักษาข้อมูลในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นของตัวเองทั้งหมดแทนการใช้ส่วนต่าง ๆ ของผู้ให้บริการระบบเซลลูลาร์ของภารรัฐ อ่านแนวทางที่ Comba พาร์ทเนอร์ระบบนิเวศของ Intel ปรับใช้เครือข่าย 5G ส่วนตัวกับพื้นที่ที่มีการเสริมความแข็งแกร่งและคุณสมบัติด้านความน่าเชื่อถือต่าง ๆ สำหรับบริษัทด้านการทำเหมืองแร่
- การลดต้นทุน ผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ได้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OpEx) ที่ต่ำ และรองรับการประมวลผลข้อมูลที่คุ้มค่าที่ Edge แทนการส่งเวิร์กโหลดแบบแบ็คฮาลไปที่ระบบคลาวด์ องค์กรมากมายสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ รวมไปถึงแร็คเซิร์ฟเวอร์ สวิตช์ และเราเตอร์ต่าง ๆ เพื่อช่วยเริ่มต้นการปรับใช้เครือข่ายส่วนตัวของตนอย่างรวดเร็วเพื่อเส้นทางในการสร้างมูลค่าที่ง่ายดายและมีประสิทธิภาพยิ่งกว่า ดู Intel, AWS และ Megh Computing ใช้เครือข่าย 5G ส่วนตัวเพื่อให้การเข้าถึงบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตกับเขตพื้นที่โรงเรียนด้อยโอกาสในช่วง COVID-19
- ข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ที่เกิดจากความยืดหยุ่นและความสามารถในการทำงานที่ดียิ่งขึ้นของรูปแบบการใช้งาน Edge AI และการพลิกโฉมทางดิจิทัล เทคโนโลยีระบบเซลลูลาร์ที่ได้รับการพิสูจน์และทดสอบมาเป็นเวลาหลายปีคือพื้นฐานในการทำให้เกิดเครือข่าย 5G ส่วนตัวขึ้น องค์กรต่าง ๆ จึงมีแนวทางที่เชื่อถือได้ในการวางแผนสู่ความสำเร็จ อ่านแนวทางที่ Intel และ Mavenir ใช้ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของเครือข่าย 5G ส่วนตัวในการทำให้เกิดผลลัพธ์ด้าน Edge AI และ Industry 4.0
วางแผนการปรับใช้เครือข่าย 5G ส่วนตัวของคุณ
เมื่อวางแผนการปรับใช้เครือข่าย 5G ส่วนตัวของคุณ ข้อควรพิจารณาแรกก็คือการกำหนดความต้องการด้านความครอบคลุม ความจุ ความเร็ว และความล่าช้าขององค์กรของคุณ ตัวอย่างเช่น ต้องการอัตราความเร็วเท่าใดสำหรับการรองรับการแพร่ภาพวิดีโอระดับ UHD แบบถ่ายทอดสด เวิร์กโหลดสำหรับรูปแบบการใช้งานด้านหุ่นยนต์ให้ความสำคัญกับเรื่องของเวลามากเพียงใด คุณจะได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโซลูชั่นเพื่อพิจารณาถึงข้อกำหนดทางเทคนิคต่าง ๆ ที่จำเป็น
ข้อควรพิจารณาสำคัญอย่างที่สองคือการทำความเข้าใจถึงความต้องการในการส่งข้อมูลแบบแบ็คฮอลของคุณ หรือปริมาณข้อมูลที่สร้างและประมวลผลที่ Edge ที่จะยังคงอยู่ที่ Edge อาจจำเป็นต้องมีการส่งข้อมูลบางส่วนแบบแบ็คฮาลไปที่เครือข่าย Core 5G, เครือข่าย IT ขององค์กร หรือระบบคลาวด์เพื่อทำการประมวลผลเพิ่มเติม หนึ่งในข้อดีหลักเครือข่าย 5G ส่วนตัวคือความสามารถในการวิเคราะห์และดำเนินการกับข้อมูลที่ Edge ได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่มีการส่งแบบแบ็คฮาล แม้ว่าจะจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานก็ตาม
และสุดท้าย คุณจะต้องหาความพร้อมใช้งานของสัญญาณ 5G ในภูมิภาคของคุณให้พบร่วมกับผู้ให้บริการโซลูชั่นของคุณ ซึ่งจะได้รับการพิจารณาที่ระดับรัฐบาลของประเทศ และแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
อ่านเอกสารข้อมูลฉบับนี้เพื่อค้นพบเวิร์กโฟลว์การปรับใช้อย่างละเอียดสำหรับเครือข่าย 5G ส่วนตัวขององค์กรที่พร้อมใช้งาน AI
ลดความซับซ้อนด้วยพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้
การปรับใช้เครือข่ายส่วนตัวเป็นองค์ประกอบหนึ่งของโซลูชั่นแบบครบวงจรเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมขีดความสามารถในการประมวลผลที่ Edge เข้าไว้ด้วยกัน การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีสามารถช่วยจัดการความซับซ้อนของสภาพแวดล้อมแบบกระจายเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กับการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนและอุปสรรคในการจัดการควบคุมโซลูชั่น
Intel มีชุดส่วนประกอบของโซลูชั่นระบบเครือข่ายส่วนตัวแบบครบวงจรเต็มรูปแบบมากมาย ซึ่งรวมฮาร์ดแวร์ เช่น โปรเซสเซอร์, GPU และ XPU, ซอฟต์แวร์ เช่น แพลตฟอร์ม Intel® Geti™ สำหรับการรองรับขีดความสามารถต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์วิชั่นที่ใช้ A และระบบนิเวศของคู่ค้าด้านซอฟต์แวร์มากมายเข้าไว้ด้วยกัน Intel ทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ Edge และเครือข่ายทั่วโลกเพื่อช่วยให้แน่ใจได้ถึงประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมของโซลูชั่นของตนในฮาร์ดแวร์ของ Intel® ซึ่งส่งผลให้ได้การดำเนินงานที่ไหลลื่นและต้นทุนที่ต่ำกว่าสำหรับธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ
เลือกดูโซลูชั่นของพาร์ทเนอร์ระบบนิเวศใน Intel® Partner Showcase
เลือกฮาร์ดแวร์ของเครือข่ายส่วนตัวที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสำเร็จ
การพลิกโฉมเครือข่าย 5G ส่วนตัวที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นจากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น สิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้กับ Intel® vRAN Boost รุ่นล่าสุด โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้รองรับทั้งโครงสร้างพื้นฐาน vRAN สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนตัวและเซิร์ฟเวอร์ Edge ที่จะเป็นสถานที่จัดการแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ของคุณ เช่น AI Intel® Accelerator Engines ในตัวมาพร้อมกับการเร่งความเร็ว AI และ vRAN ที่ผสานการทำงานกับ CPU โดยตรง1 เพื่อช่วยลดความจำเป็นของการ์ดเร่งความเร็วภายนอกและต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์ที่ไม่จำเป็น
เมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มในเจนเนอเรชั่นก่อนหน้าแล้ว โปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 4 ให้ความจุ vRAN สูงสุดสองเท่า โดยมีการประหยัดพลังงานในการประมวลผลมากกว่าประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์มากกว่าสองเท่า2
อะแดปเตอร์เครือข่าย Intel® Ethernet 800 Series ให้ความเร็วสูงสุดที่ระดับ 100GbE และทำให้ได้โปรโตคอลการซิงโครไนซ์และการกำหนดเวลาเครือข่ายเพื่อรองรับเวิร์กโหลดที่อิงตามความล่าช้าและการประมวลผลเชิงกำหนด
Intel® FPGA มีจุดเชื่อมต่อมากมายสำหรับการเร่งความเร็ว AI, การเคลื่อนไหวข้อมูล, การประมวลผล, การเข้ารหัส และการบีบอัดในทุก ๆ จุดภายในเครือข่ายส่วนตัว
Intel® GPU รองรับเวิร์กโหลดด้านการเข้ารหัส/ถอดรหัสและการประมวลผลวิดีโอและการสรุปข้อมูล AI สำหรับรูปแบบการใช้งานที่มีมูลค่าสูงในคอมพิวเตอร์วิชั่นที่ใช้ AI ที่ Edge ซึ่งการปรับใช้เครือข่ายส่วนตัวมากมายรองรับ
ยกระดับชุดระบบเครือข่าย 5G ส่วนตัวด้วยซอฟต์แวร์ที่มีการปรับให้เหมาะสม
สถาปัตยกรรมอ้างอิง FlexRAN™ ของ Intel® จะให้พิมพ์เขียวสำหรับการจำลอง RAN ไปพร้อม ๆ กับการปรับใช้ขีดความสามารถด้านการจัดการพลังงานหลักของโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® แบบปรับขนาดได้ องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้สถาปัตยกรรมอ้างอิงนี้ในการเร่งความเร็ววงจรการปรับใช้ของตัวเองไปพร้อมกับการปรับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน vRAN ของตนให้เหมาะสม
นอกจากการจำลองเครือข่ายส่วนตัวแล้ว Intel ยังมีแพลตฟอร์มสำหรับการรองรับรูปแบบการใช้งานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ขั้นสูงด้วย:
- ในส่วนของรูปแบบการใช้งานด้านคอมพิวเตอร์วิชั่นที่ใช้ AI แพลตฟอร์ม AI Intel® Geti™จะเร่งความเร็วการฝึกฝนแบบจำลอง AI โดยใช้อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายแบบไม่มีโค้ด/มีน้อยกว่า องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญนอกเหนือไปจากด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล เพื่อช่วยฝึกฝนและปรับใช้แบบจำลอง AI ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
- ในส่วนของคอมพิวเตอร์วิชั่นที่ใช้ AI, แบบจำลองด้านภาษาขนาดใหญ่ และ Generative AI ชุดเครื่องมือ OpenVINO™ จะให้เฟรมเวิร์กแบบโอเพ่นซอร์สเพื่อเร่งความเร็วแบบจำลองต่าง ๆ ไปพร้อมกับการลดขนาดของตัวเองลง แบบจำลองที่เป็นผลลัพธ์ได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงในเป้าหมายด้านฮาร์ดแวร์ต่างชนิดกัน ซึ่งเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีการกระจายที่ Edge
- Intel® SceneScape เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างมาเพื่อรับข้อมูลสำคัญ สนับสนุนการสร้างแบบจำลองวัตถุทางกายภาพในรูปแบบดิจิทัลที่คมชัดในทุกรายละเอียด และช่วยทำให้การรับรู้สถานการณ์เป็นแบบอัตโนมัติสำหรับสถานที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ
- Project Strata ที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นโซลูชั่น AI แบบไฮบริดและ Edge อัจฉริยะที่จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง ปรับใช้ เรียกใช้ จัดการ เชื่อมต่อ และช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับการประยุกต์ใช้งานและโครงสร้างพื้นฐาน Edge ที่มีการกระจาย
ร่วมงานกับ Intel เพื่อลดความซับซ้อนของเครือข่ายส่วนตัวของคุณ
การปรับใช้เครือข่ายส่วนตัวที่เหมาะสมที่สุดกับองค์กรของคุณอาจมีความซับซ้อน แต่ Intel มีชุดองค์ประกอบแบบแยกส่วนต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อช่วยลดความซับซ้อนของเส้นทางของตนและเร่งความเร็วในการสร้างมูลค่าของคุณ เริ่มต้นด้วยการติดต่อตัวแทน Intel ของคุณหรือพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีของ Intel® และนำโซลูชั่นที่พร้อมสำหรับตลาดและผ่านการรับรองมาแล้วมาใช้กับองค์กรของคุณกันเลย
ค้นหาพาร์ทเนอร์และโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีของ Intel® ได้แล้ววันนี้ใน Intel® Partner Showcase