ชิปเซ็ต Intel® Q670 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 12 สำหรับเดสก์ท็อปธุรกิจ

author-image

โดย

ประสิทธิภาพระดับองค์กร

เวิร์คโฟลว์ธุรกิจที่ทันสมัยต้องใช้ฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงที่ยอดเยี่ยมทั้งการใช้งานและการสร้างข้อมูล ชิปเซ็ต Intel® Q670 สามารถใช้ได้กับโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 12 ที่มีการเชื่อมต่อที่รวดเร็วที่สุดสำหรับเครือข่ายแบบมีสายและไร้สาย มีอะไรใหม่ในเจนเนอเรชั่นนี้ ชิปเซ็ต Intel® Q670 รวมมาตรฐาน Wi-Fi 6E ล่าสุด เมื่อรวมกับส่วนประกอบ RF ที่ใช้ Intel® Wi-Fi 6E AX211 (Gig+) เดสก์ท็อปธุรกิจพร้อมรองรับเครือข่ายไร้สายที่ทันสมัย ที่มาพร้อมความยืดหยุ่นที่สามารถจัดวางได้ทุกที่ในสภาพแวดล้อมธุรกิจ โดยไม่ต้องคำนึงว่ามีเครือข่ายแบบมีสายอยู่หรือไม่ สำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสายแบบดั้งเดิม ชิปเซ็ต Intel® Q670 ยังรองรับ Intel® Ethernet Connection ที่มาพร้อมตัวเลือก 1 Gbps และ 2.5 Gbps สำหรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วกับอุปกรณ์ภายใน เดสก์ท็อปที่มาพร้อมคอนโทรลเลอร์ Thunderbolt™ จาก Intel แบบแยกมอบแบนด์วิดธ์สูงสุด 40 Gbps ผ่านพอร์ต USB Type-C ที่ใช้งานได้กับ USB 4.0

นอกจากนี้ ชิปเซ็ตยังเพิ่มการรับส่งข้อมูลและการตอบสนองที่รองรับ PCIe 4.0 (การถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 16 Giga-ต่อวินาที) พอร์ต USB 3.2 Gen 2x2 (20 Gbps) เพิ่มเติม, SATA 3.2 (6 Gbps ต่อพอร์ต) และการสื่อสาร I/O ทั้งหมดระหว่างชิปเซ็ต Intel® Q670 และการไหลของโปรเซสเซอร์ผ่าน Direct Media Interface (DMI 4.0) 8 เลนที่อัปเกรด คุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ระบบเสียงแยกแยะความถี่สูงของ Intel® และ Integrated Sensor Hub (ISH) มอบประสบการณ์การประมวลผลธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ

ความสามารถในการจัดการอันล้ำสมัย

ชิปเซ็ต Intel® Q670 รองรับความสามารถในการจัดการนอกคลื่นความถี่สองประเภท มอบตัวเลือกสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านไอทีในระดับการควบคุมระยะไกลที่จำเป็นสำหรับการบำรุงรักษาเชิงรุกและเชิงรับสำหรับอุปกรณ์ปลายทางที่ใช้ประมวลผล Intel® Standard Manageability (ISM) มอบชุดเครื่องมือที่ตรงตามมาตรฐาน DASH เพื่อเปิดทำงานเดสก์ท็อปจากระยะไกล ตั้งโปรแกรมเวลาเปิดทำงานสำหรับการบำรุงรักษา ปรับภาพระบบโดยใช้ USB Redirection และความสามารถอื่น ๆ ที่แตกต่าง มีอะไรใหม่สำหรับเจนเนอเรชั่นนี้ ISM ได้รับการอัปเกรดให้สามารถจัดการระบบผ่าน Wi-Fi และพร้อมรองรับ client initiated remote access (CIRA) CIRA ช่วยให้สามารถจัดการอุปกรณ์ปลายทางผ่านคลาวด์ด้วยคอนโซลโดยใช้ Intel® Endpoint Management Assistant

ชิปเซ็ต Intel® Q670 ยังรองรับ Intel® Active Management Technology (Intel® AMT) ชุด ISM พิเศษที่มี keyboard-video-mouse (KVM) ที่ทำงานจากระยะไกล ที่ช่วยให้ช่างเทคนิคด้านไอทีควบคุมอุปกรณ์ปลายทางที่ประมวลผลได้จากระยะไกลราวกับนั่งอยู่หน้าอุปกรณ์ การควบคุม KVM จากระยะไกลยังใช้กับเมนู UEFI ซึ่งช่วยให้ช่างเทคนิคสามารถทริกเกอร์ หรือกำหนดค่าความสามารถใหม่ใด ๆ ที่ตั้งโปรแกรมใน BIOS ได้จากระยะไกลอีกด้วย ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติที่มีชื่อว่า Intel® One-Click Recovery เมื่อนำไปใช้โดยผู้ผลิตอุปกรณ์ Intel® One-Click Recovery สามารถแก้ไขระบบที่ปิดใช้งานได้โดยติดตั้งภาพล่าสุดใหม่ตามที่กำหนดโดย OEM โดยช่างเทคนิคไอที หรือแม้แต่ใน Windows Recovery Environment

คุณสมบัติความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มก่อนหน้านี้ ชิปเซ็ต Intel® Q670 รวม Intel® Converged Security and Management Engine (Intel® Converged Security and Management Engine) ให้มาด้วย Intel® Converged Security and Management Engine ทำหน้าที่ดำเนินการ Intel® Standard Manageability และการใช้งาน Intel® AMT และความสามารถด้านความปลอดภัยที่รวมให้มาในพีซีสำหรับธุรกิจที่ใช้ Windows เอนจินการเข้ารหัสใน Intel CSME ตรงตามมาตรฐาน FIPS 140/2 Level 2 เพิ่มลักษณะด้านความปลอดภัยสำหรับคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น Intel® Boot Guard และ Intel® Platform Trust Technology (Intel® Platform Trust Technology) Intel® Boot Guard ช่วยให้การบูทได้รับการตรวจสอบโดยการเข้ารหัสลับเพื่อให้มั่นใจว่าระบบบูทเฉพาะซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น Intel® Platform Trust Technology มี Trusted Platform Module ให้มาในตัวที่ตรงตามมาตรฐาน TPM 2.0 จำเป็นต้องมี TPM 2.0 สำหรับบริการต่าง ๆ ภายในระบบปฏิบัติการ Windows สำหรับเดสก์ท็อปธุรกิจ Intel® Converged Security and Management Engine ต้องใช้เวอร์ชันระดับองค์กรของ Intel® ME FW ที่ผ่านการตรวจสอบ ร่วมกับชุดเทคโนโลยีความปลอดภัย Intel® Hardware Shield อื่นๆ เพื่อให้สามารถใช้ชิปเซ็ต Intel® Q670 กับเดสก์ท็อปบนแพลตฟอร์ม Intel วีโปร®