หากใครที่ทำงานด้านดูแลระบบขนาดใหญ่ หรือศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ต้องให้บริการผู้คนในจำนวนมาก ๆ คงจะบอกได้ทันทีเลยว่าการบำรุงรักษาและดูแลให้เครื่องทั้งหมดนั้นอยู่ในสภาพที่ปกติพร้อมใช้งานได้อยู่ตลอดนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีที่ต้องตามโลกให้ทัน เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างให้ทันท่วงที หรือการดูแลซ่อมบำรุงให้กับทุกภาคส่วนให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น สิ่งเหล่านี้คือความท้าทายที่ผู้รับผิดชอบในงานดังกล่าวจะต้องเผชิญในทุก ๆ วัน
ทว่าในโครงการความร่วมมือระหว่าง Intel ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในการทดสอบใช้งานแพลตฟอร์ม Intel vPro® ณ ศูนย์บริการเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์กว่า 2,000 เครื่องที่กระจายทั่วทั้งมหาวิทยาลัยนั้น ได้แสดงให้เห็นถึงการยกระดับศูนย์ไอทีไปอีกขั้น ที่ทำให้สามารถดูแลบำรุงรักษาเครื่องต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยเจ้าหน้าที่เพียงแค่ 10 คนเท่านั้น อะไรคือปัจจัยที่ทำให้เป็นเช่นนั้นได้ ติดตามได้ในบทความนี้ครับ
ความท้าทายของมหาวิทยาลัยในยุคดิจิทัล
ด้วยเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงต้องการจะเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลชั้นนำของภาคเหนือ และการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้เป็นลักษณะ Blended Learning ที่สามารถปรับใช้ได้ทั้งการเรียนในรูปแบบออนไลน์ และแบบออฟไลน์ได้ การจัดเตรียมความพร้อมให้กับระบบคอมพิวเตอร์ ห้องปฏิบัติการ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานในการเรียนการสอนได้ตลอดเวลานั้น จึงเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับศูนย์บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ 10 ท่าน แต่ต้องดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 2,000 เครื่องให้ได้
“เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องเรียน หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในกลุ่มการเรียนการสอนต่าง ๆ เราจะต้องสามารถเข้าไปบริหารจัดการได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตระบบหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ต่าง ๆ” อ.ภิญโญ คงมีลาภ หัวหน้าฝ่ายเลขานุการและธุรการศูนย์บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าว “แต่ก่อนพนักงาน ของเราต้องเดินเข้าไปที่ห้องปฏิบัติการแต่ละห้องเพื่อเปิดเครื่อง ตรวจเช็คปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก หรือหากเราเข้าไปปฏิบัติการตามออฟฟิศต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ก็จะพบปัญหาเรื่อง “ชั่วโมงปฏิบัติการ” ที่บางครั้งเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ที่โต๊ะ ไปทำธุระ หรือมีการเรียนการสอน พนักงานของเราก็ไม่สามารถทำงานได้ ต้องรอให้เจ้าของเครื่องกลับมาก่อนจึงจะปฏิบัติงานได้”
จะเห็นได้ว่าความท้าทายนั้นมีทั้งเรื่องจำนวนพนักงานที่น้อยกว่าเครื่องที่ต้องดูแลอย่างมาก และเรื่องของเวลาในการดูแลแต่ละเครื่อง ซึ่งยังมีปัจจัยอื่น ๆ มาผนวกร่วมด้วย เช่น ระยะทางที่เจ้าหน้าที่จะต้องเดินไปตรงหน้าเครื่อง เวลาของเจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยที่อาจจะว่างไม่ตรงกัน ซึ่งก็จะยิ่งทำให้การดูแลบำรุงรักษามีความยากขึ้นไปอีก
แพลตฟอร์ม Intel vPro® คือคำตอบ
แน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวนั้นมีโซลูชันที่ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอันเป็นที่รู้กัน ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ Remote Desktop ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องได้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเดินไปที่หน้าเครื่องอีก แต่ถึงกระนั้น ทางศูนย์บริการพบว่าซอฟต์แวร์ Remote Desktop ที่มีอยู่ในตลาด โดยส่วนใหญ่จะยังมีข้อจำกัดในการใช้งาน เช่น ค่าบริการที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม ไม่สามารถเข้าถึงหรือเปิดเครื่องได้ หากเครื่องปิดอยู่ หรือว่าไม่สามารถสั่งเปิดปิดเครื่องได้จากระยะไกล ไม่สามารถปรับแต่ง Bios ได้จากระยะไกล เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ด้วยโซลูชันแพลตฟอร์ม Intel vPro ที่ออกแบบมาสำหรับหน่วยงานธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งมีคุณสมบัติครบทั้งด้านประสิทธิภาพ ความเสถียร ความปลอดภัยระดับสูง และที่สำคัญคือมีระบบจัดการจากระยะไกลได้ด้วยเทคโนโลยี Intel® Active Management Technology (Intel® AMT) ที่ช่วยลดข้อจำกัด ในการจัดการจากระยะไกลโดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะเปิดอยู่หรือไม่ หรือว่าเครื่องจะใช้ระบบปฎิบัติการอะไรอยู่ก็ตาม โดยจะทำงานร่วมกับ Intel® Endpoint Management Assistant (Intel® EMA) ซึ่ง Intel ให้มาใช้งานได้ “ฟรี” ทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถเข้าถึงและแก้ไขเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ปลายทางที่อยู่ภายในเครือข่ายได้จากระยะไกล ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
จึงเป็นที่มาที่ทางศูนย์บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์ม Intel vPro มาใช้งาน เกิดเป็นโครงการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ประมาณ 700 เครื่อง เข้าศูนย์บริการในเฟสแรกเป็นที่เรียบร้อย
“เจ้าหน้าที่ 1 คนดูแลได้ 700 เครื่อง”
หลังจากที่ได้เริ่มทดลองใช้งานแพลตฟอร์ม Intel vPro แล้ว เจ้าหน้าที่ในศูนย์บริการต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ตอบโจทย์” เพราะความสามารถของเทคโนโลยี Intel AMT และ Intel EMA นี้เอง ที่ทำให้เจ้าหน้าที่แต่ละท่านสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นและไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่หน้างานอีกด้วย ซึ่งบางงานในบางกรณี จากเดิมต้องใช้เวลาเป็นหลักชั่วโมงในการแก้ไข ก็สามารถลดเวลาในการแก้ไขปัญหาได้เสร็จสิ้นภายในไม่กี่นาที
จะเห็นได้ว่าหลังจากที่ได้นำเอาแพลตฟอร์ม Intel vPro มาใช้งานนั้น ก็สามารถแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องเวลาและจำนวนพนักงานที่ไม่เพียงพอลงไปได้ทันที ซึ่งความสามารถต่าง ๆ เหล่านี้ในแพลตฟอร์ม Intel vPro มีให้ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด อีกทั้งใน Intel vPro จะมีโปรแกรม Intel® Stable IT Platform Program (Intel® SIPP) ที่จะทำให้อุปกรณ์รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จาก Intel ได้เป็นเวลาอย่างน้อย 15 เดือน เรียกได้ว่า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับศูนย์บริการของมหาวิทยาลัยโดยแท้จริง
ทางศูนย์บริการมีความพึงพอใจเป็นอย่างมากด้วยประสิทธิภาพจาก แพลตฟอร์ม Intel vPro และมีแผนที่จะซื้อระบบ Intel vPro เพิ่มเติมในอนาคตเพื่อความมั่นใจในการบริการ และบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์ ในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ.นพกานต์ พินิจ ช่างเทคนิค (ซ้าย), อ.ดร.วิทยาศักดิ์ รุจิวรกุล ผู้อำนวยการ(กลาง), อ.ภิญโญ คงมีลาภ หัวหน้าฝ่าย(ขวา).
บทสรุป
ความสำเร็จในการยกระดับศูนย์ไอทีของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สามารถเพิ่ม ศักยภาพให้กับทีมงานไอทีให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น