ในฟังก์ชัน RapidIO® MegaCore® IP เลเยอร์การขนส่งจะมีบัฟเฟอร์ตื้น บัฟเฟอร์นี้มักจะมีไว้สําหรับจัดเก็บแพ็กเก็ตขาเข้าทั้งหมดในขณะที่กําลังส่งต่อไปยังเลเยอร์ลอจิคัลในคอร์ (เช่น โมดูลสเลฟ I/O Avalon®-MM, โมดูลมาสเตอร์ I/O Avalon-MM, อินเทอร์เฟซ Avalon-ST) นอกจากนี้ ทั้งเลเยอร์การขนส่งและโมดูลชั้นทางกายภาพไม่มีกลไกที่ช่วยให้แพ็กเก็ตสามารถบายพาสซึ่งกันและกันได้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่หากโมดูลเลเยอร์ลอจิคัลไม่สามารถล้างแพ็กเก็ตจากเลเยอร์การขนส่งได้เร็วพอที่ส่งผลให้แพ็กเก็ตใดแพ็กเก็ตหนึ่งในโมดูลเลเยอร์การขนส่งถูกวางลงในโมดูลเลเยอร์การขนส่ง นี่จะทําให้แพ็กเก็ตทั้งหมดสํารองลงในชั้นกายภาพจนกว่าเลเยอร์การขนส่งจะสามารถล้างแพ็กเก็ตปัจจุบันได้ เมื่อบัฟเฟอร์ใน Physical Layer เติม ข้อมูล แล้ว การลองใหม่จะออกให้สําหรับแพ็กเก็ตขาเข้าตามระดับขีดจํากัดลําดับความสําคัญที่กําหนดไว้ในการตั้งค่าคอร์
ตัวอย่างเช่น สมมุติว่ามีส่วนประกอบหน่วยความจําที่เชื่อมต่อกับโมดูลหลัก I/O Avalon-MM ที่มีเวลาในการเข้าถึงช้ามาก หรือโมดูลหลัก I/O Avalon-MM ได้รับคําขอรอจาก Fabric การเชื่อมต่อระหว่างระบบจนกระทั่งAvalon-MM master อีกตัวทําธุรกรรมให้เสร็จสิ้นด้วยส่วนประกอบที่ใช้ร่วมกัน ส่งผลให้โมดูลหลัก I/O Avalon-MM ถึงขีดจํากัดของจํานวนคําขอพร้อมกันที่สามารถประมวลผลได้ และไม่สามารถรับแพ็กเก็ตที่ร้องขอได้อีก หากแพ็กเก็ตถัดไปเป็นคําขออื่นที่มุ่งเป้าไปที่โมดูลหลัก I/O Avalon-MM แล้วแพคเก็ตนั้นจะอยู่ในเลเยอร์การขนส่ง หากมีแพ็กเก็ตอื่นที่มุ่งเป้าไปที่อินเทอร์เฟซ Avalon-ST pass-through หลังจากนั้น แพ็คเก็ตนี้ต้องยังคงอยู่ในบัฟเฟอร์ Physical Layer จนกว่าจะล้างแพ็กเก็ตคําขอในเลเยอร์การขนส่ง เนื่องจากบัฟเฟอร์ Physical Layer ใช้คิวก่อนวางจําหน่ายก่อนสําหรับจัดเก็บแพ็กเก็ตขาเข้าทั้งหมด จากนั้นแพ็กเก็ตใดๆ ที่ได้รับหลังจากแพ็กเก็ตที่มุ่งเป้าไปที่อินเทอร์เฟซการส่งผ่าน Avalon-ST จะยังคงอยู่ใน Physical Layer ซึ่งอาจเป็นเหตุให้คิวกรอกข้อมูลได้
เมื่อถึงจุดนี้ การตั้งค่าคอร์ที่จํากัดลําดับความสําคัญใน Physical Layer จะกําหนดว่าจะยอมรับแพ็กเก็ตใหม่ในบัฟเฟอร์ตัวรับหรือเพื่อทําการลองส่งใหม่