คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย

อุตสาหกรรม 4.0 นำเอาเทคโนโลยีด้านดิจิทัลและกายภาพมารวมกันเพื่อสร้างปฏิบัติการที่ตอบสนองและเชื่อมต่อกัน ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทาน และปรับระบบปฏิบัติการได้แบบเกือบเรียลไทม์เพื่อลดต้นทุน ลดของเสีย คาดการณ์ปัญหา และสร้างสรรค์ข้อเสนอใหม่ๆ โดยรวมระบบปฏิบัติการและ IT ไว้บนแพลตฟอร์มประมวลผลที่ปรับเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ

การผลิตอันชาญฉลาดจะผนึกรวมข้อมูลและสารสนเทศจากหลายๆ แอปพลิเคชัน กระบวนการ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถประกอบกันเพื่อสร้างโซลูชันใหม่ โดยให้มีการผลิตเชิงคาดการณ์และแบบปรับตัว และกระบวนการห่วงโซ่อุปทานที่เอื้อให้ธุรกิจเติมเต็มข้อเรียกร้องต่างๆ สำหรับผลิตภัณฑ์แบบกำหนดเองได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และตอบรับต่อความผันผวนในตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการคาดคะเนอุปสงค์

การผลิตแบบกระบวนการจะเกี่ยวข้องกับการผสานรวมส่วนประกอบและวัตถุดิบโดยใช้สูตรสำเร็จ วิธีการนี้มักนิยมใช้กันในอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก เช่น อาหารและเครื่องดื่ม การกลั่นน้ำมัน เภสัชกรรม และพลาสติก การผลิตแบบแยกส่วนจะเน้นที่ขั้นตอนสุดท้ายของการรวบรวมช้ินส่วนพร้อมวางตลาด เช่น ยานยนต์และอุปกรณ์เครื่องใช้

ด้วยเทคโนโลยีโรงงานอันชาญฉลาด เช่น การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ส่งผลให้ทั้งการผลิตแบบกระบวนการและการผลิตแบบแยกส่วนมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยลดเวลาหยุดทำงานและเพิ่มผลผลิต

การผลิตอย่างยั่งยืนเป็นวิธีการผลิตแบบองค์รวม ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้อุตสาหกรรม 4.0 และเทคโนโลยีการผลิตแบบดิจิทัล เพื่อลดมลพิษ อนุรักษ์แหล่งพลังงานและธรรมชาติ ป้องกันความปลอดภัยของพนักงาน และตอบแทนคืนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลิต์ทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน โดยต้องใช้การตรวจจับและวิเคราะห์ข้อมูลทั่วทั่งห่วงโซ่อุปทานและกระบวนการผลิต รวมทั้งระบบจัดการพลังงานและของเสีย

เอดจ์อัจฉริยะเป็นการผสมผสานกันระหว่างประสิทธิภาพระบบคอมพิวเตอร์แบบอัจฉริยะและปรับขยายได้กับ AI สำหรับเวิร์กโหลดการปฏิบัติงานด้านอุตสาหกรรม โดยสร้างโซลูชันอย่างเช่น แบบจำลองวัตถุทางกายภาพในรูปแบบดิจิทัล (Digital Twins) และ Manufacturing Execution Systems (MES)โดยทำให้เกิดโซลูชัน อย่างเช่น แบบจำลองวัตถุทางกายภาพในรูปแบบดิจิทัล (Digital Twins) และ Manufacturing Execution Systems (MES) การผสมผสานนี้เกิดจากการมาบรรจบกันของเวิร์กโหลด และการปรับเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานซอฟต์แวร์สำหรับแพลตฟอร์มการประมวลผลที่ edge

แพลตฟอร์มเอดจ์อัจฉริยะมีข้อดีให้มากมาย รวมถึงการลดต้นทุน การรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น การผลิตงานที่มากขึ้น และประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ที่ดีขึ้น เอดจ์อัจฉริยะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถรันได้หลายๆ เวิร์กโหลดในอุปกรณ์มาตรฐาน เป็นการขจัดความจำเป็นในการโยกย้ายข้อมูลปริมาณมากจากพื้นที่ปฏิบัติงานไปยังคลาวด์ อีกทั้งยังช่วยจัดการคุณภาพได้อย่างเข้มข้นด้วยการตรวจหาจุดบกพร่องในผลิตภัณฑ์แบบเกือบเรียลไทม์ การปรับเน้นประสิทธิภาพกระบวนการและห่วงโซ่อุปทาน และการเพิ่มการใช้ประโยชน์ในสินทรัพย์ โมเดลธุรกิจแบบใหม่ทั้งหมดก็สามารถมีขึ้นได้เช่นกันโดยเพียงเพิ่มเวิร์กโหลดใหม่เข้าไป

ผู้ผลิตใช้ระบบ HPC แบบกระจายในการรันเวิร์คโหลดที่ซับซ้อน เช่น การจำลองการชนหรือการสร้างโมเดล fluid dynamic เนื่องจากระบบ HPC มีประสิทธิภาพสูงมาก จึงสามารถทำการคำนวณที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและภายในพารามิเตอร์เวลาที่ยอมรับได้ ผู้ผลิตสามารถเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปรับการออกแบบและระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพได้ โดยใช้สถาปัตยกรรม high performance computing สำหรับความต้องการการวิเคราะห์ HPC, HPC AI และการจำลอง HPC

ระบบ HPC มอบแรงม้าในการประมวลผลซึ่งเป็นที่ต้องการโดยเวิร์คโหลดและงาน CAE ขั้นสูง ผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรของคุณสามารถยกระดับประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของระบบ HPC เพื่อขยายขอบเขตและความลึกของความพยายาม ทำการวิเคราะห์ที่แม่นยำมากขึ้น และเร่งเวลาในการสร้างมูลค่าให้กับโครงการของพวกเขาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น