ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับร้านอาหารจานด่วน (QSR)
อาหารที่ดีและบริการที่รวดเร็วคือมาตรฐานของอุตสาหกรรมร้านอาหารจานด่วน แต่ในปัจจุบัน ความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกำลังยกระดับมาตรฐานสำหรับ QSR จากการศึกษาล่าสุดพบว่า มีร้านอาหารจำนวนน้อยกว่าครึ่งที่สามารถตอบโจทย์คาดหวังของลูกค้าในด้านต่างๆ เช่น การสั่งซื้อที่ง่ายดาย เครื่องมือและเทคโนโลยีเชิงโต้ตอบ และการส่งสินค้า1
ผู้ที่เลือกทานอาหารจานด่วนจะมีแนวคิดที่แตกต่างไปจากลูกค้าที่รับประทานอาหารที่บ้านอยู่เล็กน้อย ลูกค้า QSR ต้องการความสามารถในการปรับแต่ง ความแม่นยำ และความคุ้มค่า ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องรวมอยู่ในประสบการณ์เดียวที่สะดวกสบาย ผู้จัดการต้องการความสามารถในการเพิ่มยอดขายและปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง
ปัจจุบัน เทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังปรับปรุงประสบการณ์ QSR และช่วยให้ร้านอาหารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ดี ด้วยเหตุนี้ ร้านอาหารจึงมีเครื่องมือที่ดีกว่าในการส่งมอบอาหารให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็วและสะดวกสบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะที่พนักงานมีเวลาที่จะให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้ามากขึ้น
หากไม่มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมพร้อมสำหรับการให้บริการที่รวดเร็วและน่าพึงพอใจ การสูญเสียยอดขายอาหารเพียงเมนูเดียวอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินหลายล้านดอลลาร์อย่างรวดเร็ว เมื่อพิจารณาจากหลายสาขา
เทคโนโลยีในอนาคตของ QSR
เมื่อสิบปีที่แล้ว ร้านอาหารแบบไดรฟ์ทรูส่วนใหญ่วัดความเร็วของการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการจับเวลาระหว่างที่ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อที่หน้าจอเมนูจนถึงการไปที่เคาน์เตอร์รับอาหาร ปัจจุบัน กระบวนการตรวจสอบนี้ล้าสมัยแล้ว และไม่สามารถให้ภาพรวมของประสบการณ์ของลูกค้าได้
เทคโนโลยีต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์วิทัศน์ กำลังเปลี่ยน QSR ให้กลายเป็นร้านอาหารอัจฉริยะ เวลาในการรอยังคงเป็นสิ่งที่ต้องบันทึก อย่างไรก็ตาม คอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถรายงานรายละเอียดที่สำคัญได้ เช่น จำนวนรถยนต์ที่กำลังต่อแถวอยู่ หรือจำนวนรถยนต์ที่เลี้ยวออกไปเนื่องจากต้องรอเป็นเวลานาน
โซลูชันคลื่นลูกใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเปิดโลกใหม่แห่งความเป็นไปได้ในด้านการบริการลูกค้าและการจัดการสินค้าคงคลัง ตัวอย่างเช่น ระบบรู้จำคำพูดจะช่วยสร้างประสบการณ์การสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความสับสนทั้งในฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย คีออสที่มีระบบคอมพิวเตอร์วิทัศน์ฝังอยู่สามารถระบุอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ได้ และสามารถส่งพนักงานไปให้ความช่วยเหลือหากลูกค้าไม่พอใจ ระบบกล้องที่ติดตามปริมาณลูกค้าตลอดทั้งวันและทั้งสัปดาห์สามารถช่วยให้ QSR คาดการณ์ความต้องการซื้อและปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลังของตนได้ดีขึ้น
เทคโนโลยีคีออสสำหรับ QSR
ลูกค้าที่เดินเข้าไปใน QSR ที่มีแถวยาวเหยียดอาจเปลี่ยนใจเลือกร้านอาหารใหม่อย่างรวดเร็ว และนั่นอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลกำไรของร้าน อย่างที่อธิบายในวิดีโอนี้ ถ้า QSR แห่งหนึ่งไม่มีการสั่งซื้อแฮมเบอร์เกอร์ราคา $4 ถึง 525 รายการสั่งซื้อระหว่างช่วงเร่งรีบทานอาหารกลางวันทุกๆ เดือนในสถานที่ 9,333 แห่ง จะทำให้เบอร์เกอร์ชิ้นหนึ่งมีต้นทุนรวมเพิ่มขึ้นถึง $19.6 ล้าน
คีออสสำหรับ QSR แบบบริการตนเองสามารถช่วยบรรเทาปัญหาคอขวดให้กับร้านอาหาร โดยช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้ทันที ปรับเปลี่ยนตัวเลือกอาหาร และรับความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วหากต้องการ มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคทั่วโลกสะดวกใจที่จะใช้คีออสแบบบริการตนเอง2 และลูกค้าส่วนใหญ่กล่าวว่าคีออสทำให้ประสบการณ์ของพวกเขาสะดวกยิ่งขึ้น3 คีออสสำหรับสั่งซื้อด้วยตนเองในปัจจุบันมีประสิทธิภาพมากพอที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ และรับมือกับปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าโดยไม่ต้องมีพนักงาน
นอกจากนี้ คีออสยังสามารถเพิ่มยอดขายได้ด้วยการควบคุมและการปรับแต่งที่ดียิ่งขึ้น ลูกค้าที่ใช้ตู้คีออสมีแนวโน้มที่จะสั่งขนมหวานมากขึ้นสองเท่า4 และมูลค่าคำสั่งซื้อทั้งหมดปรากฏมีเพิ่มขึ้น 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์1
คีออสเชิงโต้ตอบที่มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม Intel® Core™ สนับสนุนประสบการณ์การรับชมแบบไดนามิก ความละเอียดสูงพิเศษ (UHD) และหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้รวดเร็ว นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์บนแพลตฟอร์ม Intel vPro® ยังมอบคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม และความสามารถในการจัดการจากระยะไกลอีกด้วย โปรเซสเซอร์เหล่านี้สามารถจับคู่กับ Intel® Movimus™ Vision Processing Unit (VPU) หรือ FPGA ได้ เพื่อใช้งานการวิเคราะห์วิดีโอที่มีประสิทธิภาพและความสามารถที่เปิดใช้งาน AI เช่น การนับจำนวนคน และการวิเคราะห์ผู้ชม
เทคโนโลยี POS สำหรับ QSR
กลยุทธ์ POS ที่วางแผนมาอย่างดีสามารถช่วย QSR ในการรักษาการทำงานให้ราบรื่นได้ ระบบ POS ล่าสุดที่มีสไตล์และความซับซ้อนอันหลากหลาย ตั้งแต่ระบบเดสก์ท็อปและระบบ All-in-One ไปจนถึงคีออสสำหรับสั่งซื้อด้วยตนเอง
เทคโนโลยี POS กำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการพัฒนาของบริการจากบุคคลที่สาม เช่น DorDash, Grubhub และ Uber Eats แอพพลิเคชั่นจัดส่งอาหารกลายมาเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยม โดยมีการใช้งานเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ระหว่างปี 2018 ถึง 20195 ซึ่งหมายความว่าในบางครั้ง พนักงาน QSR ต้องจัดการกับคำสั่งซื้ออาหารบนแท็บเล็ตสองถึงสามเครื่อง
ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ ร้านอาหารสามารถใช้งานแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามในคอนเทนเนอร์เสมือนบนระบบสั่งซื้อ เพื่อขจัดความจำเป็นในการจัดการอุปกรณ์ไคลเอนต์หลายๆ ชิ้น
กระดานเมนูดิจิตอลสำหรับ QSR
ป้ายดิจิตอลสำหรับร้านอาหารแสดงรายการเมนูอาหารด้วยวิธีการที่สะดวกกว่าป้ายแบบคงที่ จากการศึกษาพบว่า ป้ายดิจิตอลสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 28 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อได้ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์6
โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ สนับสนุนประสบการณ์การมองเห็นแบบไดนามิกและประสบการณ์การตอบสนองที่รวดเร็วในป้ายดิจิตอล ด้วยโปรเซสเซอร์บนแพลตฟอร์ม Intel vPro® ทีม IT จะสามารถจัดการป้ายดิจิตอลจากระยะไกลซึ่งยากที่จะเข้าถึงได้
นอกจากนี้ วิวัฒนาการในอนาคตของกระดานเมนูดิจิตอลยังอาจผสานรวมคอมพิวเตอร์วิทัศน์ไว้ด้วย ชุดเครื่องมือ Intel® Distribution of OpenVINO™ ช่วยให้การรวมความสามารถในการมองเห็น เช่น การรู้จำวัตถุและการวิเคราะห์ผู้ชม เข้ากับป้ายดิจิตอลและคีออสเชิงโต้ตอบเป็นเรื่องง่าย
ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารอาจเปิดเครื่องบันทึกเงินสดหนึ่งเครื่อง และมีพนักงานเข้าแถวรออยู่แปดคน คอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถ “มองเห็น” จำนวนคนที่ยืนอยู่ในแถวและส่งคำขอเปิดเครื่องบันทึกเงินสดอีกเครื่องหนึ่งได้ เทคโนโลยีนี้สามารถทำได้แม้กระทั่งส่งเจ้าหน้าที่ให้บริการในแถว (Line Buster) ที่มีแท็บเล็ตเพื่อเริ่มรับคำสั่งซื้อของลูกค้าได้ เมื่อใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์ในการรวบรวมข้อมูลลูกค้าที่มีค่า เช่น การประเมินด้านประชากรศาสตร์ QSR จะสามารถสร้างโปรโมชั่นที่ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับยอดขายได้
การเปลี่ยนโฉมอนาคตของ QSR
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดกำลังช่วยให้ QSR สามารถนำเสนอตัวเลือกการบริการตนเอง ดึงดูดลูกค้าให้มีส่วนร่วมด้วยประสบการณ์การมองเห็นแบบไดนามิก และให้ความสามารถแก่ลูกค้าในการสั่งอาหารที่ปรับแต่งเองได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ พนักงานจึงมีอิสระในการเปลี่ยนจากการทำงานทั่วๆ ไปมาสู่การทำหน้าที่เป็นตัวแทนเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการรับประทานอาหารของลูกค้าแบบเรียลไทม์ได้